นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงสถานการณ์ติดเชื้อเอไอวีของประชาชนในกรุงเทพฯว่า การคาดการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ในกรุงเทพฯ ปี59 พบว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีชีวิตอยู่จำนวน 78,080 คน แต่ยังมีประชาชนที่ติดเชื้อเอชไอวี และยังไม่รู้ตัวอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาล่าช้า และมีโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวได้ โดยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เกิดขึ้นวันละประมาณ 5 คน ซึ่งในกลุ่มเยาวชนตั้งแต่อายุ14-25ปี จะเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันเป็นส่วนใหญ่
นายชวินทร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกว่า 79 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 25-39 ปี และเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะอยู่ในกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย มากถึง 28.6 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น กทม.จึงต้องวางแนวทางรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชนให้ดูแลป้องกันตนเอง โดยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องมีการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะมีการรณรงค์ไปยังโรงเรียน และพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีกทั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรได้รับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีปีละ 2 ครั้ง โดย สามารถขอเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่งฟรี และโรงพยาบาลของรัฐอื่นๆ ซึ่งหากทราบถึงการติดเชื้อโดยเร็วจะสามารถควบคุมอาการได้
นายชวินทร์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันกว่า 79 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 25-39 ปี และเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะอยู่ในกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย มากถึง 28.6 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น กทม.จึงต้องวางแนวทางรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่เด็กและเยาวชนให้ดูแลป้องกันตนเอง โดยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องมีการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะมีการรณรงค์ไปยังโรงเรียน และพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีกทั้งผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงควรได้รับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีปีละ 2 ครั้ง โดย สามารถขอเข้ารับการตรวจได้ที่โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่งฟรี และโรงพยาบาลของรัฐอื่นๆ ซึ่งหากทราบถึงการติดเชื้อโดยเร็วจะสามารถควบคุมอาการได้