นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันว่าไม่มีบทบัญญัติใดในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ พรรคการเมืองในปัจจุบันต้องจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า เป็นเรื่องดีที่ประธานกรธ.ยืนยันเรื่องนี้ ทำให้มีความชัดเจนขึ้นว่าจะไม่เซ็ตซีโร่พรรคการเมือง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบันโดยเฉพาะพรรคการเมืองที่เคยมี ส.ส.ในสภามีพัฒนาการมาเป็นลำดับ จึงควรปล่อยให้พรรคการเมืองมีวิวัฒนาการต่อไปตามครรลองของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ความพยายามที่จะให้พรรคการเมืองจดทะเบียนใหม่มีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้พรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมืองหลายล้านคนที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนการสมัครมากพอสมควร จึงมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้จากการจดทะเบียนพรรคใหม่ ในทางตรงกันข้ามอาจถูกทำให้มองได้ว่าต้องการสลายพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำให้พรรคการเมืองที่มีอยู่ทุกวันนี้อ่อนแอมากกว่า และสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ที่มีเครือข่ายสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจ ซึ่งย่อมไม่เกิดผลดีต่อการเดินหน้าไปตามโรดแมปที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว ในช่วงการเขียนพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจะนำเรื่องการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่มาใส่ไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ความพยายามที่จะให้พรรคการเมืองจดทะเบียนใหม่มีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้พรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมืองหลายล้านคนที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนการสมัครมากพอสมควร จึงมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้จากการจดทะเบียนพรรคใหม่ ในทางตรงกันข้ามอาจถูกทำให้มองได้ว่าต้องการสลายพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำให้พรรคการเมืองที่มีอยู่ทุกวันนี้อ่อนแอมากกว่า และสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ที่มีเครือข่ายสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจ ซึ่งย่อมไม่เกิดผลดีต่อการเดินหน้าไปตามโรดแมปที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามว่าหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว ในช่วงการเขียนพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองจะนำเรื่องการจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่มาใส่ไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่
