พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากผลการลงประชามติของประเทศอังกฤษที่เสียงส่วนใหญ่ให้ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ตนได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) วิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจากการวิเคราะห์ถึงผลกระทบทั้งในด้านการค้าระหว่างประเทศและการลงทุน พบว่าด้านการค้าระหว่างประเทศ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเกษตรของไทย ในระยะสั้นอาจไม่ส่งผลกระทบทางตรงมากนัก แต่ระยะยาว อาจมีผลต่อการส่งออกสินค้าเกษตรไทย ในปี 2558 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์รวมมูลค่า 1.21 ล้านล้านบาท ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ไปยังอียู มูลค่า 115,748 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.56 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมด อีกทั้งไทยส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ไปยังอังกฤษ มูลค่า 34,850 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.88 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมด ถ้าพิจารณาการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ระหว่างไทยกับอังกฤษในปี 2558 พบว่าไทยส่งออกไปยังอังกฤษลดลงร้อยละ 4.81 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุด คือผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ร้อยละ 52.82 ของมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ระหว่างไทยและอังกฤษทั้งหมด รองลงมาคือ ทูน่าบรรจุ และกุ้งขาวแวนนาไม ร้อยละ 2.97 และ 2.88 ตามลำดับ และไทยได้นำเข้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์จากอังกฤษ มูลค่า 9,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.87 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สินค้าหลักที่มีการนำเข้าจากอังกฤษคือวิสกี้ มูลค่า 4,542.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.65 ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์จากอังกฤษ
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ถ้าอังกฤษออกจากอียู อาจจะไม่กระทบกับไทยในเชิงการค้ามากนัก โดยมีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ไทยและอียูยังไม่บรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรี เพราะฉะนั้นการที่อังกฤษออกจากอียูยังไม่น่าส่งผลกระทบโดยตรงกับการค้าระหว่างไทยกับอังกฤษ จากการสูญเสียสิทธิประโยชน์ทางการค้า แต่ในอนาคตหากอังกฤษออกจากอียูจริง ไทยอาจต้องเจรจาทำข้อตกลงทางการค้าเสรีกับอังกฤษ นอกเหนือจากข้อตกลงกับอียู เพราะไทยกับอังกฤษยังไม่มีข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน ขณะที่การส่งออกของไปยังอังกฤษ ยังมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการส่งออกเกษตรรวมของไทย อังกฤษเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทย และสินค้าเกษตรแลผลิตภัณฑ์ของไทยส่งออกไปอังกฤษ มูลค่า 34,850 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.88 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมด โดยควรจะจับตาการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและภูมิทัศน์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ถ้าอังกฤษออกจากอียู อาจจะไม่กระทบกับไทยในเชิงการค้ามากนัก โดยมีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ไทยและอียูยังไม่บรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรี เพราะฉะนั้นการที่อังกฤษออกจากอียูยังไม่น่าส่งผลกระทบโดยตรงกับการค้าระหว่างไทยกับอังกฤษ จากการสูญเสียสิทธิประโยชน์ทางการค้า แต่ในอนาคตหากอังกฤษออกจากอียูจริง ไทยอาจต้องเจรจาทำข้อตกลงทางการค้าเสรีกับอังกฤษ นอกเหนือจากข้อตกลงกับอียู เพราะไทยกับอังกฤษยังไม่มีข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน ขณะที่การส่งออกของไปยังอังกฤษ ยังมีสัดส่วนค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการส่งออกเกษตรรวมของไทย อังกฤษเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทย และสินค้าเกษตรแลผลิตภัณฑ์ของไทยส่งออกไปอังกฤษ มูลค่า 34,850 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.88 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมด โดยควรจะจับตาการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบและภูมิทัศน์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด