“พิชัย” ได้ทีแนะรัฐบาล คสช. ดูอังกฤษเป็นตัวอย่างในการทำประชามติ ที่เปิดโอกาสให้วิพากษ์วิจารณ์เต็มที่ อย่าหวังแค่ฟอกขาวรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงการลงประชามติของประเทศอังกฤษจะอยู่ร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู ) ต่อหรือไม่หรือที่เรียกว่า Brexit ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ประชาคมโลกกำลังจับตาดูผล Brexit ที่ขณะนี้มีแนวโน้มที่อังกฤษจะอยู่ในอียูต่อเป็นไปได้มาก แต่หากอังกฤษออกจากอียูจริงก็น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทางด้านตลาดเงินตลาดทุน เนื่องจากมหานครลอนดอนเป็นศูนย์กลางการเงินและตลาดทุนสำคัญแห่งหนึ่งของโลกจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลหลัก ตลาดหุ้น และราคาทองคำจะมีความผันผวนมาก โดยเฉพาะในอียู
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย Brexit อาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรง เพราะการส่งออกของไทยไปอังกฤษมีสัดส่วนเพียง 2% แต่ก็คาดว่าอาจจะทำให้การส่งออกไทยไปอียูลดต่ำลงอีกจากที่ลดต่ำอยู่แล้ว เพราะอียูไม่เจรจาเขตการค้าเสรีกับไทยเนื่องจากรัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย
นายพิชัยคาดการณ์ว่าหากอังกฤษออกจากอียูจริง ประเทศอื่นๆ ที่มีปัญหาทางการเงินอยู่อาจตัดสินใจออกตามอังกฤษด้วยซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั้งโลก จึงอยากให้รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ อยากให้รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ศึกษาวิธีการทำประชามติของอังกฤษที่เป็นสากล เพื่อที่จะได้นำมาใช้กับการทำประชามติรัฐธรรมนูญของไทย โดยต้องเปิดให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเต็มที่ เพื่อประชาชนจะได้รับทราบถึงข้อมูลข้อดีข้อเสียในทุกด้าน ประชาชนจะได้ตัดสินใจอนาคตของตนเองได้ถูกต้อง
“อย่าทำให้ประชามติเป็นเพียงแค่การฟอกขาวรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะสุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดและอาจยาวนานถึง 20 ปี”
