วันนี้ (28 พ.ค.59) นายกมล พิชิตสิงห์ นักธุรกิจหมื่นล้านชาวอินเดีย เดินทางไปแจ้งความเอาผิดนายคชา ทัศนมาลัย อดีตหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของตระกูลในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่นายคชา ออกมาระบุว่า นายกมล ว่าจ้างให้ทำร้ายร่างกายน้องชาย หัวหน้าทนายความ และคนรอบข้าง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
นายกมล ยืนยัน ไม่เคยว่าจ้างนายคชา ให้ไปทำร้ายบุคคลต่างๆ ตามที่นายคชากล่าวอ้าง และนายคชาไม่ใช่พนักงานรักษาความปลอดภัย ของตระกูลพิชิตสิงห์ เป็นเพียงหัวหน้ากลุ่มบุคคลที่น้องชาย 2 คน ว่าจ้างมาเฝ้าติดตาม และมาสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของตนและครอบครัว หลังจากครอบครัวมีปัญหาฟ้องร้องดำเนินคดีกันเรื่องมรดก
นอกจากนี้ นายกมลยังชี้แจงว่า ที่นายคชากล่าวอ้างว่าตนเสนอให้เงิน เพื่อให้เลิกอารักขาน้องชาย 2 คนนั้น ไม่เป็นความจริง โดยได้นัดพบกับนายคชา หลายครั้ง เพื่อเจรจาต่อรองให้นายคชา นำทีมออกไปจากอาคารฮาวายเทาเวอร์ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของตนและครอบครัว เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความกลัว จนทำให้บุตรสาวคนโตไม่กล้าเข้ามาเยี่ยมตนที่อาคารฮาวายฯ อีก
ผลจากการเจรจากับนายคชา คือ นายคชาตกลงว่าจะนำทีมดังกล่าวออกไป และจะไม่รับจ้างน้องชาย 2 คนมาทำแบบนี้อีก แต่จะต้องยอมจ่ายเงินชดเชยให้กับ คนในทีม 6 คน จำนวน 2 เดือน ซึ่งนายคชาอ้างว่า ได้รับค่าจ้างเดือนละ 30,000 บาท ซึ่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้ทุกคน คนละ 60,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 360,000 บาท เพื่อให้เอาคนออกไปจากอาคารซึ่งเป็นที่พักอาศัย แต่นายคชากลับผิดสัญญาเอากลุ่มคนเดิมออกไปแต่นำกลุ่มคนชุดใหม่เข้ามาแทน จึงเชื่อว่านายคชาต้องร่วมมือกับบุคคลอื่นวางแผนทำลายชื่อเสียง
ทั้งนี้นายกมลได้ทำแผ่นซีดีบันทึกหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนายคชามามอบให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน โดยพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ลงบันทึกประจำวันก่อนเรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม
นายกมล ยืนยัน ไม่เคยว่าจ้างนายคชา ให้ไปทำร้ายบุคคลต่างๆ ตามที่นายคชากล่าวอ้าง และนายคชาไม่ใช่พนักงานรักษาความปลอดภัย ของตระกูลพิชิตสิงห์ เป็นเพียงหัวหน้ากลุ่มบุคคลที่น้องชาย 2 คน ว่าจ้างมาเฝ้าติดตาม และมาสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของตนและครอบครัว หลังจากครอบครัวมีปัญหาฟ้องร้องดำเนินคดีกันเรื่องมรดก
นอกจากนี้ นายกมลยังชี้แจงว่า ที่นายคชากล่าวอ้างว่าตนเสนอให้เงิน เพื่อให้เลิกอารักขาน้องชาย 2 คนนั้น ไม่เป็นความจริง โดยได้นัดพบกับนายคชา หลายครั้ง เพื่อเจรจาต่อรองให้นายคชา นำทีมออกไปจากอาคารฮาวายเทาเวอร์ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของตนและครอบครัว เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความกลัว จนทำให้บุตรสาวคนโตไม่กล้าเข้ามาเยี่ยมตนที่อาคารฮาวายฯ อีก
ผลจากการเจรจากับนายคชา คือ นายคชาตกลงว่าจะนำทีมดังกล่าวออกไป และจะไม่รับจ้างน้องชาย 2 คนมาทำแบบนี้อีก แต่จะต้องยอมจ่ายเงินชดเชยให้กับ คนในทีม 6 คน จำนวน 2 เดือน ซึ่งนายคชาอ้างว่า ได้รับค่าจ้างเดือนละ 30,000 บาท ซึ่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้ทุกคน คนละ 60,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 360,000 บาท เพื่อให้เอาคนออกไปจากอาคารซึ่งเป็นที่พักอาศัย แต่นายคชากลับผิดสัญญาเอากลุ่มคนเดิมออกไปแต่นำกลุ่มคนชุดใหม่เข้ามาแทน จึงเชื่อว่านายคชาต้องร่วมมือกับบุคคลอื่นวางแผนทำลายชื่อเสียง
ทั้งนี้นายกมลได้ทำแผ่นซีดีบันทึกหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนายคชามามอบให้พนักงานสอบสวนเป็นหลักฐาน โดยพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ลงบันทึกประจำวันก่อนเรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม
