ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกมีการขยายตัวได้ดีกว่าการประมาณการเบื้องต้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.1% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปรับขึ้น 2.3% และดัชนีแนสแด็ก พุ่งขึ้น 4.3%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากนางเยลเลนกล่าวในพิธีมอบรางวัลดังกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น
"หากเศรษฐกิจยังคงขยายตัว และตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น ซึ่งดิฉันก็คาดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างระมัดระวังก็ถือว่ามีความเหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% พร้อมกับกล่าวว่า ตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีความอ่อนแอในด้านค่าจ้าง และการเติบโตของประสิทธิภาพการผลิต
นักวิเคราะห์มองว่า การแสดงความคิดเห็นของนางเยลเลนมีนัยสำคัญอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยบที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตได้ ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสระบุในรายงานว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่เนื่องจากอังกฤษจะมีการจัดทำประชามติเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ทำให้คาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทำประชามติดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรก อยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 0.5%
หุ้นอัลตา ซาลอน คอสเมติก ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องสำอางค์รายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 9.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.5% จากรายงานที่ว่า กูเกิลชนะคดีสิทธิบัตร หลังจากที่มีคดีความฟ้องร้องในเรื่องดังกล่าวกับบริษัทออราเคิล คอร์ป
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี และหุ้นมาราธอน ออยล์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1.6%
* ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day *
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,873.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.93 จุด หรือ +0.25% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,933.50 จุด เพิ่มขึ้น 31.74 จุด หรือ +0.65% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,099.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.96 จุด หรือ +0.43%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.1% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปรับขึ้น 2.3% และดัชนีแนสแด็ก พุ่งขึ้น 4.3%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับมอบรางวัล Radcliffe Award จากสถาบันแรดคลิฟสำหรับการศึกษาขั้นก้าวหน้า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากนางเยลเลนกล่าวในพิธีมอบรางวัลดังกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น
"หากเศรษฐกิจยังคงขยายตัว และตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น ซึ่งดิฉันก็คาดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างระมัดระวังก็ถือว่ามีความเหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว
นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากอยู่ในภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันกำลังปรับตัวมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อไปสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% พร้อมกับกล่าวว่า ตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังมีความอ่อนแอในด้านค่าจ้าง และการเติบโตของประสิทธิภาพการผลิต
นักวิเคราะห์มองว่า การแสดงความคิดเห็นของนางเยลเลนมีนัยสำคัญอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับอัตราดอกเบี้ยบที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตได้ ด้านนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้
ขณะที่นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิสระบุในรายงานว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่เนื่องจากอังกฤษจะมีการจัดทำประชามติเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในเดือนมิ.ย.เช่นกัน ทำให้คาดว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการทำประชามติดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรก อยู่ที่ระดับ 0.8% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งอยู่ที่ 0.5%
หุ้นอัลตา ซาลอน คอสเมติก ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องสำอางค์รายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 9.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 1.5% จากรายงานที่ว่า กูเกิลชนะคดีสิทธิบัตร หลังจากที่มีคดีความฟ้องร้องในเรื่องดังกล่าวกับบริษัทออราเคิล คอร์ป
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี และหุ้นมาราธอน ออยล์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1.6%
* ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day *