ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นแอปเปิล อิงค์ และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,830.76 จุด ร่วงลง 210.79 จุด หรือ -1.17% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,805.29 จุด ลดลง 57.85 จุด หรือ -1.19% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,075.81 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.92%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 18,000 จุด หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ มีมติคงนโยบายในการเพิ่มฐานเงินรายปีที่ระดับ 80 ล้านล้านเยน ผ่านทางการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ ต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ พร้อมระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจและดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรก โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7% โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีสาเหตุจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ได้กดดันการส่งออก
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 3% และนับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย หลังจากนายคาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนชื่อดังของสหรัฐเปิดเผยว่า เขาได้เทขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทแอปเปิล อิงค์
การร่วงลงของหุ้นแอปเปิลได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย รวมถึงหุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล โดยราคาหุ้นทั้งสองปรับตัวลงกว่า 2% อย่างไรก็ตาม หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ และหุ้นอาปาเช่ คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.3% ขณะที่หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6.4%
หุ้นดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ทะยานขึ้น 24% หลังจากมีรายงานว่า เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของคอมแคสต์ จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ในราคาหุ้นละ 41 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นคอมแคสต์ปรับตัวลง 0.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค., รายได้ส่วนบุคคลเดือนมี.ค., ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศของสหรัฐเดือนเม.ย.จากเฟดชิคาโก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,830.76 จุด ร่วงลง 210.79 จุด หรือ -1.17% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,805.29 จุด ลดลง 57.85 จุด หรือ -1.19% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 2,075.81 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.92%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 18,000 จุด หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ BOJ มีมติคงนโยบายในการเพิ่มฐานเงินรายปีที่ระดับ 80 ล้านล้านเยน ผ่านทางการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า BOJ ต้องการเวลามากขึ้นในการประเมินผลกระทบจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ พร้อมระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจและดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรก โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7% โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีสาเหตุจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ได้กดดันการส่งออก
หุ้นแอปเปิลร่วงลง 3% และนับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย หลังจากนายคาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนชื่อดังของสหรัฐเปิดเผยว่า เขาได้เทขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัทแอปเปิล อิงค์
การร่วงลงของหุ้นแอปเปิลได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงด้วย รวมถึงหุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล โดยราคาหุ้นทั้งสองปรับตัวลงกว่า 2% อย่างไรก็ตาม หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ และหุ้นอาปาเช่ คอร์ป ต่างก็ร่วงลงกว่า 3.3% ขณะที่หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6.4%
หุ้นดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ทะยานขึ้น 24% หลังจากมีรายงานว่า เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของคอมแคสต์ จะเข้าซื้อกิจการของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น ในราคาหุ้นละ 41 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นคอมแคสต์ปรับตัวลง 0.2%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ รวมถึงการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค., รายได้ส่วนบุคคลเดือนมี.ค., ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศของสหรัฐเดือนเม.ย.จากเฟดชิคาโก และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน