ดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิลที่ถูกพักงาน ประกาศในวันพฤหัสบดี(12พ.ค.) ว่าจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง หลังวุฒิสภาลงมติสนับสนุนให้เปิดกระบวนการไต่สวนเพื่อถอนถอดเธอจากตำแหน่ง ในฐานละเมิดกฎหมายงบประมาณ
นางรูสเซฟฟ์ ผู้นำฝ่ายซ้ายอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2011 ถูกแทนตำแหน่งโดยนายมิเชล ทีเมอร์ รองประธานาธิบดีของเธอ ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีระหว่างกระบวนการไต่สวนความผิดของวุฒิสภา ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะใช้เวลาสูงสุด 6 เดือน
ในการแถลงไม่นานก่อนเดินทางออกจากทำเนียบประธานาธิบดี นางรูสเซฟฟ์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอได้รับแจ้งเกี่ยวกับการถูกพักงานในวันพฤหัสบดี(12พ.ค.) และได้ย้ำในสิ่งที่เธอยืนหยัดมาตลอดตั้งแต่กระบวนการถอดถอนเธอได้เริ่มขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
"ฉันอาจเคยทำผิดพลาด แต่ฉันไม่เคยก่ออาชญากรรมใดๆ" รูสเซฟฟ์แถลงด้วยความโกรธ พร้อมเรียกการถอดถอนว่าเป็น "การฉ้อฉล" และ "รัฐประหาร"
วุฒิสภาใช้เวลาอภิปรายนานถึง 20 ชั่วโมง ก่อนลงมติ 55 ต่อ 22 เสียงในวันพฤหัสบดี(12พ.ค.) รับนางรูสเซฟฟ์ เข้าสู่กระบวนการสืบสวนตามข้อกล่าวหาปกปิดและปลอมแปลงยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อให้เศรษฐกิจดูแข็งแกร่งเกินความเป็นจริง ก่อนหน้าที่เธอจะได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในปี 2014
รูสเซฟฟ์ นักเศรษฐศาสตร์และอดีตสมาชิกกลุ่มกองโจรมาร์กซิสต์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิล ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และเรียกข้อกล่าวหาต่างๆเหล่านั้นว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง
นางรูสเซฟฟ์ ผู้นำฝ่ายซ้ายอยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2011 ถูกแทนตำแหน่งโดยนายมิเชล ทีเมอร์ รองประธานาธิบดีของเธอ ซึ่งจะเข้ามารับหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีระหว่างกระบวนการไต่สวนความผิดของวุฒิสภา ซึ่งคาดหมายว่าน่าจะใช้เวลาสูงสุด 6 เดือน
ในการแถลงไม่นานก่อนเดินทางออกจากทำเนียบประธานาธิบดี นางรูสเซฟฟ์บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอได้รับแจ้งเกี่ยวกับการถูกพักงานในวันพฤหัสบดี(12พ.ค.) และได้ย้ำในสิ่งที่เธอยืนหยัดมาตลอดตั้งแต่กระบวนการถอดถอนเธอได้เริ่มขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
"ฉันอาจเคยทำผิดพลาด แต่ฉันไม่เคยก่ออาชญากรรมใดๆ" รูสเซฟฟ์แถลงด้วยความโกรธ พร้อมเรียกการถอดถอนว่าเป็น "การฉ้อฉล" และ "รัฐประหาร"
วุฒิสภาใช้เวลาอภิปรายนานถึง 20 ชั่วโมง ก่อนลงมติ 55 ต่อ 22 เสียงในวันพฤหัสบดี(12พ.ค.) รับนางรูสเซฟฟ์ เข้าสู่กระบวนการสืบสวนตามข้อกล่าวหาปกปิดและปลอมแปลงยอดขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อให้เศรษฐกิจดูแข็งแกร่งเกินความเป็นจริง ก่อนหน้าที่เธอจะได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยในปี 2014
รูสเซฟฟ์ นักเศรษฐศาสตร์และอดีตสมาชิกกลุ่มกองโจรมาร์กซิสต์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของบราซิล ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และเรียกข้อกล่าวหาต่างๆเหล่านั้นว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง