นายกลิน ที เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
เข้าพบหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการต่างประเทศ
โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ภายหลังหารือ นายกลิน กล่าวว่า สหรัฐฯ
ไม่ได้ประณามไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนตามที่สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าว แต่
ยอมรับว่าสิ่งที่นางแคทินา อดัมส์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเป็น
ความเป็นห่วงกรณีทางการไทยจับกุมผู้ที่โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย รวม
ถึงกรณี น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์
หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิไตยใหม่
นายกลิน กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับพันธกิจ และต่ออนาคตของไทยเรื่องการเคารพเสรีภาพ และการแสดงออก เป็นการสร้างบรรยากาศของ
การข่มขู่ ทำให้ต้องระมัดระวังในการแสดงความเห็นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ถือว่า
เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก สหรัฐฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยืนยันว่าประชาชนสามารถแสดงความเห็นได้อย่างเปิดเผย และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของประเทศ โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญ และแผนการลงประชามติ จึงขอกระตุ้นรัฐบาลไทยยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เพราะนานาชาติมีความเป็นห่วง
เข้าพบหารือกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่ากากระทรวงการต่างประเทศ
โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ภายหลังหารือ นายกลิน กล่าวว่า สหรัฐฯ
ไม่ได้ประณามไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนตามที่สำนักข่าวต่างประเทศเสนอข่าว แต่
ยอมรับว่าสิ่งที่นางแคทินา อดัมส์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเป็น
ความเป็นห่วงกรณีทางการไทยจับกุมผู้ที่โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดีย รวม
ถึงกรณี น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์
หรือ จ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิไตยใหม่
นายกลิน กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับพันธกิจ และต่ออนาคตของไทยเรื่องการเคารพเสรีภาพ และการแสดงออก เป็นการสร้างบรรยากาศของ
การข่มขู่ ทำให้ต้องระมัดระวังในการแสดงความเห็นเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ถือว่า
เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก สหรัฐฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยืนยันว่าประชาชนสามารถแสดงความเห็นได้อย่างเปิดเผย และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของประเทศ โดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญ และแผนการลงประชามติ จึงขอกระตุ้นรัฐบาลไทยยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ เพราะนานาชาติมีความเป็นห่วง