น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคเรื้อรังมากขึ้น โดยเฉพาะเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะแทรกซ้อนไตเรื้อรัง ซึ่งมีประมาณ 7.6 ล้านคน มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 1 หมื่นคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ในจำนวนนี้ป่วยระยะสุดท้ายกว่า 70,000 คน ต้องฟอกเลือด หรือล้างไตทางช่องท้อง สร้างความทุกข์ทรมานให้ผู้ป่วย และเสียค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือสิทธิการรักษา 2 แสนบาทต่อคนต่อปี กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายรณรงค์คัดกรองประชาชนอายุ 40 ปีขึ้นไป เพื่อค้นพบผู้ป่วยหรือมีความเสี่ยงป่วยได้เร็วขึ้น รักษาเร็วขึ้น ลดการป่วยและเสียชีวิต หากพบความเสี่ยงจะตรวจเลือดและโปรตีนในปัสสาวะ เพื่อประเมินความสามารถในการทำงานของไต เพื่อจัดระบบการรักษาให้เหมาะสมกับระยะของการเจ็บป่วย ส่งผลดีต่อผู้ป่วย เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่จะเข้าสู่โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย รู้เร็ว รักษาเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้ให้บริการคลินิกชะลอไตเสื่อมในในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง จนถึงโรงพยาบาลศูนย์ครบทุกแห่งทั่วประเทศ โดยมีทีมสหวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพ และนักโภชนากร ดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังแบบองค์รวม ช่วยยืดระยะเวลาไตเสื่อมไปได้อีก 7 ปี
ทั้งนี้ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 20 องค์กร ผลักดันนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ และจัดทำร่างยุทธศาสตร์ลดบริโภคเกลือ (โซเดียม) ในประเทศไทยตลอดจนจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อควบคุมการบริโภคเกลือและโซเดียม เป็นการป้องกันโรคไตเรื้อรังอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 20 องค์กร ผลักดันนโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ และจัดทำร่างยุทธศาสตร์ลดบริโภคเกลือ (โซเดียม) ในประเทศไทยตลอดจนจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อควบคุมการบริโภคเกลือและโซเดียม เป็นการป้องกันโรคไตเรื้อรังอย่างยั่งยืน