สธ. เร่งอบรม “ทีมสหวิชาชีพ” คลินิกโรคไต หวังคัดกรอง ดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ชะลอไตเสื่อม เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย ลดอัตราเกิดโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ประหยัดงบประมาณค่ารักษา
วันนี้ (31 มี.ค.) ที่โรงแรมเอเชีย ราชเทวี กทม. นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดการอบรมพัฒนาศักยภาพวิทยากรสหวิชาชีพ (ครู ก) เพื่อพัฒนาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในคลินิกชะลอไตเสื่อม ว่า โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของโรคไตเรื้อรัง ซึ่งปัจจุบันพบจำนวนคนป่วยมากขึ้น การตั้งคลินิกชะลอไตเสื่อม เป็นการค้นหาคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย และผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนให้ได้รับการดูแลรักษา โดยเริ่มจากคัดกรองผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ว่า การทำงานของไตในระดับใด หากอยู่ระดับ 3 - 4 ให้เข้ารับบริการที่คลินิก ซึ่งดูแลด้วยทีมสหวิชาชีพ มีพยาบาลแนะนำเรื่องโรคไตและการปฏิบัติทั่ว ๆ ไป นักโภชนาการแนะนำเรื่องอาหาร นักกายภาพบำบัดแนะนำเรื่องออกกำลังกาย เภสัชกรแนะนำเรื่องการใช้ยา แล้วพบแพทย์ โดยหวังชะลอความเสื่อมของไตออกไปอีก 7 ปี ซึ่งจะประหยัดงบประมาณค่ารักษากว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยปี 2559 ตั้งเป้าจัดคลินิกชะลอไตเสื่อมในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียงขึ้นไป ครบ 100% ทั่วประเทศ
ด้าน นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมฯ ได้รับมอบให้ดูแลพัฒนาบุคลากรสหวิชาชีพผู้ปฏิบัติงานในคลินิกชะลอไตเสื่อม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองและดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 8 ล้านคนให้มีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งลดอัตราการเกิดโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ปัจจุบันมีผู้ป่วยอยู่ประมาณ 7 หมื่นคน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 15 - 20 ต่อปี ผู้ป่วยเหล่านี้มีอัตราเจ็บป่วยและเสียชีวิตสูง คุณภาพชีวิตต่ำ ใช้งบประมาณดูแลรักษามากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี การอบรมครั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ ความเข้าใจทั้งในเรื่องของนโยบาย ประเด็น เทคนิค และ วิธีการ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ไปถ่ายทอดให้กับทีมสหวิชาชีพในเขตสุขภาพของตน เพื่อให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่