นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญว่า กรธ. ได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งหมด 279 มาตรา ประกอบด้วยหมวดต่างๆ 16 หมวด และบทเฉพาะกาล โดยมีหมวดที่เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่คือ หมวดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศ ที่มีเรื่องการปฏิรูปสำคัญๆ ในหลายด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ และด้านอื่นๆ โดยกระบวนการปฏิรูปประเทศเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยให้ตรากฎหมายและประกาศใช้ภายใน 120 วัน นับตั้งแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
ขณะที่การปฏิรูปใน 2 เรื่องสำคัญ คือ การปฏิรูปตำรวจ ให้มีคณะกรรมการชุดหนึ่ง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลที่เป็นและไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจ เพื่อดำเนินการการปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปี แต่ถ้าครบกำหนดแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ ให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดำเนินไปตามหลักอาวุโส ส่วนการปฏิรูปด้านการศึกษา ให้มีกรรมการที่มีความเป็นอิสระคณะหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีจะต้องแต่งตั้งภายใน 60 วันนับตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้ดำเนินการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
นอกจากนี้ เนื้อหาที่สำคัญๆ ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้มีการปรับแก้ไขให้ดีขึ้น เช่น การกำหนดให้รัฐต้องจัดการศึกษาให้เด็กทุกคนเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ระดับเด็กก่อนวัยเรียนจนกระทั่งจบการศึกษาภาคบังคับ โดยในการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็จะมีการจัดตั้งกองทุนในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในโอกาสทางการศึกษา การกำหนดให้องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญจัดทำมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 1 ปี
นายนรชิต กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ของ กรธ. ถึงแม้ว่าจะจัดทำร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังต้องทำหน้าที่เพื่อออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น 11 ฉบับ ที่จะใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน โดยจะต้องเร่งดำเนินการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก่อน คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเมื่อออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จก็ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน โดยมีการระบุคุณสมบัติต้องห้ามไม่ให้ผู้ทุจริตกลับมาวงการทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังกำหนดในส่วนที่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรต่างๆ ต้องเว้นวรรคก่อนไม่น้อยกว่า 90 วัน หากจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเงื่อนไขนี้ ไม่รวมถึงผู้ที่จะเข้าสู่กระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ตอบโจทย์หน้าที่ที่ได้มอบหมายมาตามรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 อย่างครบถ้วน เพื่อให้เหมาะสมในช่วงเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้ กรธ. จะมีกำหนดการเปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ เวลา 13.39 น. ที่ห้องประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชั้น 3 รัฐสภา และในวันที่ 30 มีนาคม จะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่ห้องประชุมรัฐสภาด้วย
ขณะที่การปฏิรูปใน 2 เรื่องสำคัญ คือ การปฏิรูปตำรวจ ให้มีคณะกรรมการชุดหนึ่ง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลที่เป็นและไม่เคยเป็นข้าราชการตำรวจ เพื่อดำเนินการการปฏิรูปให้เสร็จภายใน 1 ปี แต่ถ้าครบกำหนดแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ ให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจดำเนินไปตามหลักอาวุโส ส่วนการปฏิรูปด้านการศึกษา ให้มีกรรมการที่มีความเป็นอิสระคณะหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีจะต้องแต่งตั้งภายใน 60 วันนับตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อให้ดำเนินการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
นอกจากนี้ เนื้อหาที่สำคัญๆ ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ได้มีการปรับแก้ไขให้ดีขึ้น เช่น การกำหนดให้รัฐต้องจัดการศึกษาให้เด็กทุกคนเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ระดับเด็กก่อนวัยเรียนจนกระทั่งจบการศึกษาภาคบังคับ โดยในการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็จะมีการจัดตั้งกองทุนในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในโอกาสทางการศึกษา การกำหนดให้องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญจัดทำมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองภายใน 1 ปี
นายนรชิต กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ของ กรธ. ถึงแม้ว่าจะจัดทำร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังต้องทำหน้าที่เพื่อออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น 11 ฉบับ ที่จะใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน โดยจะต้องเร่งดำเนินการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก่อน คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเมื่อออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จก็ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน โดยมีการระบุคุณสมบัติต้องห้ามไม่ให้ผู้ทุจริตกลับมาวงการทางการเมือง
นอกจากนี้ ยังกำหนดในส่วนที่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรต่างๆ ต้องเว้นวรรคก่อนไม่น้อยกว่า 90 วัน หากจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเงื่อนไขนี้ ไม่รวมถึงผู้ที่จะเข้าสู่กระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. ตอบโจทย์หน้าที่ที่ได้มอบหมายมาตามรัฐธรรมนูญฯ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 อย่างครบถ้วน เพื่อให้เหมาะสมในช่วงเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้ กรธ. จะมีกำหนดการเปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ เวลา 13.39 น. ที่ห้องประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชั้น 3 รัฐสภา และในวันที่ 30 มีนาคม จะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่ห้องประชุมรัฐสภาด้วย