ศาลล้มละลายกลาง นัดพิจารณาคดีที่มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นโจทก์ที่ 1 และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นโจทก์ที่ 2 ยื่นฟ้อง น.ส.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาทันตกรรมเด็ก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (ม.มหิดล) ที่ได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทและเอก ที่สหรัฐฯ เป็นจำเลย โจทก์ทั้งสองได้ฟ้องจำเลยต่อศาลปกครอง เพื่อให้รับผิดชอบชดใช้ทุนที่จำเลยผิดสัญญารับทันรัฐบาลศึกษาวิชาในต่างประเทศ ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาวันที่ 15 ก.พ.49 ให้จำเลยชดใช้ ม.มหิดล โจทก์ที่ 1 จำนวนกว่า 2 ล้านบาท สั่งชดใช้เงินให้ สกอ. เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสองแล้ว ได้ความจริงว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ทั้งสองในมูลหนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท อันเป็นหนี้ที่กำหนดจำนวนได้แน่นอน จำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ จึงมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยให้หักจากกองทรัพย์สินของจำเลยเฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์ทั้งสองแล้ว ได้ความจริงว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ทั้งสองในมูลหนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท อันเป็นหนี้ที่กำหนดจำนวนได้แน่นอน จำเลยไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ จึงมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสอง โดยให้หักจากกองทรัพย์สินของจำเลยเฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร
