สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากเทรดเดอร์ขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ 32.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นประมาณ 3.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 35.10 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ น้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นไปกว่า 6%
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในการซื้อขายระหว่างวัน โดยพุ่งขึ้นไปถึงราว 3% และแตะที่ระดับสูงถึง 34 ดอลลาร์ ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถจับมือกันผลักดันราคาให้ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจำนวนมากในสหรัฐ และการปรับตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ครั้งที่ 2 สำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้วก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 256.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 3 แสนบาร์เรล ซึ่งได้บ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจำนวนมากในสหรัฐ
ขณะที่รายงานระบุว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.2% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ครั้งที่ 2 สำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 1.0% โดยปรับเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.7%
ตัวเลขจีดีพีล่าสุดผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาส 4 จะถูกปรับทบทวนลงสู่ระดับ 0.4%
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้กลับมาปรับตัวสู่แดนลบในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์
สำหรับข่าวคราวความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายยูโลจิโอ เดล ปิโน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันและเหมืองแร่ของเวเนซูเอล่าเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เวเนซูเอล่าจะเข้าร่วมประชุมกับรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ ในช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยมีเป้าหมายที่จะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ข่าวการจัดการประชุมดังกล่าวช่วยให้ตลาดมีความหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย กาตาร์ และเวเนซูเอล่า ต่างก็เห็นพ้องเรื่องการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันในการเจรจาที่จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน รายงานในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่มีการใช้งาน ได้ลดลง 13 แท่น สู่ระดับ 400 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.9% แตะที่ 32.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นประมาณ 3.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 35.10 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดสัปดาห์ น้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นไปกว่า 6%
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในการซื้อขายระหว่างวัน โดยพุ่งขึ้นไปถึงราว 3% และแตะที่ระดับสูงถึง 34 ดอลลาร์ ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถจับมือกันผลักดันราคาให้ดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจำนวนมากในสหรัฐ และการปรับตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ครั้งที่ 2 สำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้วก็เป็นปัจจัยหนุนตลาดเช่นกัน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 256.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 3 แสนบาร์เรล ซึ่งได้บ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจำนวนมากในสหรัฐ
ขณะที่รายงานระบุว่า ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.2% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ครั้งที่ 2 สำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 1.0% โดยปรับเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.7%
ตัวเลขจีดีพีล่าสุดผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาส 4 จะถูกปรับทบทวนลงสู่ระดับ 0.4%
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้กลับมาปรับตัวสู่แดนลบในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรก่อนสุดสัปดาห์
สำหรับข่าวคราวความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น นายยูโลจิโอ เดล ปิโน รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันและเหมืองแร่ของเวเนซูเอล่าเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เวเนซูเอล่าจะเข้าร่วมประชุมกับรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และกาตาร์ ในช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยมีเป้าหมายที่จะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการสร้างเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ข่าวการจัดการประชุมดังกล่าวช่วยให้ตลาดมีความหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย กาตาร์ และเวเนซูเอล่า ต่างก็เห็นพ้องเรื่องการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันในการเจรจาที่จัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ บริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน รายงานในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐที่มีการใช้งาน ได้ลดลง 13 แท่น สู่ระดับ 400 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี
