เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนเมื่อวันอังคาร (16 ก.พ.) ร้องขอให้นายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรีและอัยการสูงสุดของประเทศลาออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากทั้งคู่สูญเสียความเชื่อมั่นจากประชาชน
“เพื่อกอบกู้ความไว้เนื้อเชื่อใจในรัฐบาล ท่านประธานาธิบดีขอให้อัยการสูงสุดและนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง” ซียาโตสลาฟ เซกอลโก โฆษกประธานาธิบดีระบุบนทวิตเตอร์
ส่วนนายโปโรเชนโก ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ประธานาธิบดีว่า “การปฏิรูปจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมันดำเนินการโดยรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างพอเพียง และเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่น การรักษาอย่างเดียวคงไม่พอ คุณจำเป็นต้องผ่าตัด”
การเข้าแทรกแซงอย่างกะทันหันของนายโปโรเชนโก มีขึ้นในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากหลายสำนักแสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มไม่พึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการทำงานของรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตกที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในชาติอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้ ตามหลังการปฏิวัติของฝ่ายนิยมตะวันตกในปี 2014
นายโปโรเชนโกบอกว่าทั้ง 4 พรรคในรัฐบาลผสมฝักใฝ่ตะวันตก ควรมีส่วนร่วมในการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ ขณะที่การลาออกของนายยัตเซนยุค ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ก้าวอย่างที่จะแสดงให้เห็นถึงระดับความขุ่นเคืองใจของเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีต่อคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน
เหล่าสมาชิกรัฐสภาจะเริ่มเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของรัฐบาลระหว่างการประชุมในช่วงบ่าย หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาพระราชบัญญัติอื่นๆ แล้ว
“เพื่อกอบกู้ความไว้เนื้อเชื่อใจในรัฐบาล ท่านประธานาธิบดีขอให้อัยการสูงสุดและนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง” ซียาโตสลาฟ เซกอลโก โฆษกประธานาธิบดีระบุบนทวิตเตอร์
ส่วนนายโปโรเชนโก ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ประธานาธิบดีว่า “การปฏิรูปจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมันดำเนินการโดยรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างพอเพียง และเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่น การรักษาอย่างเดียวคงไม่พอ คุณจำเป็นต้องผ่าตัด”
การเข้าแทรกแซงอย่างกะทันหันของนายโปโรเชนโก มีขึ้นในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนจากหลายสำนักแสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มไม่พึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการทำงานของรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตกที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจในชาติอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้ ตามหลังการปฏิวัติของฝ่ายนิยมตะวันตกในปี 2014
นายโปโรเชนโกบอกว่าทั้ง 4 พรรคในรัฐบาลผสมฝักใฝ่ตะวันตก ควรมีส่วนร่วมในการปรับคณะรัฐมนตรีคราวนี้ ขณะที่การลาออกของนายยัตเซนยุค ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ก้าวอย่างที่จะแสดงให้เห็นถึงระดับความขุ่นเคืองใจของเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีต่อคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน
เหล่าสมาชิกรัฐสภาจะเริ่มเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของรัฐบาลระหว่างการประชุมในช่วงบ่าย หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาพระราชบัญญัติอื่นๆ แล้ว