อนุฯ ปราบทุจริตแนะแก้เนื้อหาร่าง พ.ร.บ.อุดช่องโหว่ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอแนะมาตรการและกลไกในการปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า อนุกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาแล้ว พบว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเปิดช่องให้มีการทุจริตในหลายมาตรา เช่น มาตรา 7 ที่ระบุว่า พ.ร.บ.นี้มิให้ใช้บังคับแก่การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง ซึ่งอนุกรรมาธิการตั้งข้อสังเกตว่า คำว่า การพาณิชย์ หมายถึงการค้าทุกประเภท อาจรวมถึงกรณีโครงการจำนำข้าว อาจถูกนำไปกล่าวอ้างในชั้นศาลว่าเป็นการพาณิชย์เชิงปกติได้

นายชาญชัย กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ได้กำหนดให้ต้องเสนอรูปแบบของโครงการก่อนเริ่มดำเนินการ และบางโครงการสามารถยกเว้นการเสนอราคากลางได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการแบบสร้างไปออกแบบไป จึงเป็นการเปิดช่องให้เสนอราคาเกินจริงได้ ขณะเดียวกัน คณะอนุกรรมาธิการฯ เสนอให้ตัดเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์ การบริการทางทหารโดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาลออก เนื่องจากเห็นว่าจะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใส และได้เชิญผู้แทนของกระทรวงกลาโหมมาชี้แจง ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ร่าง พ.ร.บ.นี้ในการจัดซื้อจัดจ้าง

นอกจากนี้ ร่างพ.ร.บ.ยังไม่เปิดช่องให้มีการตรวจสอบ โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจและการถอดถอนด้วย จึงควรปรับแก้เนื้อหาเนื่องจากมีรายละเอียดที่เปิดช่องให้ทุจริต และยังพบว่าผู้ที่ร่าง พ.ร.บ.นี้ คือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งอาจจะขัดกับเจตนารมณ์ของร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องการปราบโกงหรือไม่ และหากปล่อยให้ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะเปิดทางให้ทุจริตหรือไม่