ประธานคณะกรรมาธิการการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สปท. ไม่เห็นด้วยแนวคิด ส.ส. นั่งควบ รมต. ได้ ชี้ ไม่ควรเกี่ยวข้องกัน หวั่นใช้ฐานอำนาจในการหาตำแหน่ง ย้ ำต้องแยกฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหาร
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอให้ ส.ส. สามารถดำรงตำแหน่งควบคู่กับตำแหน่งรัฐมนตรี (รมต.) ได้ว่า การเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารแบบที่เป็นอยู่ทำให้การตรวจสอบไม่ได้ผล ต้องแยกออกจากกัน นายกรัฐมนตรีมาจากสภา แต่เมื่อตั้ง รมต. แล้ว ไม่ควรเกี่ยวข้องกัน เพราะจะใช้ฐานอำนาจในการหาตำแหน่ง ถ้าจะปฏิรูปต้องแยกฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารได้
นายเสรี กล่าวว่า คนที่เป็น ส.ส. ไม่ควรเป็น รมต. เมื่อรับตำแหน่ง รมต. แล้วก็ต้องพ้น ส.ส. นอกจากนั้นต้องปรับระบบการตรวจสอบถอดถอนได้ จากเดิมที่ฝ่ายนิติบัญญัติมีอำนาจอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภา เห็นว่า นายกรัฐมนตรีไม่ควรยุบสภาได้ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พอถึงที่สุดแล้วก็ลงมติไม่ไว้วางใจไม่เคยได้ เพราะเป็นพวกเดียวกันทำให้ถอดถอนไม่ได้ จึงเสนอว่า ให้เปลี่ยนเป็นการอภิปรายเพื่อมุ่งสู่การถอดถอน ถ้าใครทำผิดให้อภิปรายเสนอหลักฐานในสภา และส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หากหน่วยงานตรวจสอบพบว่ามีความผิดก็ส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการถอดถอนต่อไป
“ที่ผ่านมา คนไม่กล้าคิดเปลี่ยนระบบของรัฐสภาเลย คิดกันแบบเดิมตลอด ส.ส. กับ รมต. จะต้องแยกกัน เป็น 2 ตำแหน่ง กินเงินเดือน 2 ตำแหน่งไม่ได้ จะกลายเป็นฐานอำนาจที่จะรักษาตำแหน่ง ต้องเปลี่ยนวิธีการถ่วงดุลคานอำนาจกันใหม่ นี่คือการปฏิรูป” นายเสรี กล่าว
