พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. หนึ่งในชุดสืบสวนคลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดย พ.ต.ท.จักริน เปิดเผยว่า จากผลตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล หรือ ดีเอ็นเอชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบยืนยันไม่ใช่คนไทยอย่างแน่นอน แต่คาดว่าเป็นชาวเอเชียหรือชาวยุโรป เนื่องจากลักษณะขนที่บริเวณหน้าอกยาว และมีจำนวนมากกว่าลักษณะของคนไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีญาติของนักข่าวชาวจีน ได้ประสานระหว่างประเทศมายังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อจะขอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเทียบเคียงกับชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกพบในแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะญาติที่เป็นนักข่าวชาวจีนที่ชื่อ นายลี ซิม ชาวจีน หายไปตัวขณะอยู่ในประเทศไทย โดยมีข้อมูลว่านายลี กำลังเตรียมตัวเดินทางไปทำข่าวที่ประเทศลาว แต่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จึงไม่แน่ใจว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบจะใช่นายลีหรือไม่
นอกจากนี้ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ยังกล่าวอีกว่า ชิ้นส่วนที่ถูกชำแหละในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้สก๊อตเทปใสพันข้อมือที่แขนขวาและใบหน้าของศพ ซึ่งรูปแบบนี้เข้าข่ายเป็นการทรมานก่อนฆ่า หรือพันเพื่อง่ายต่อการชำแหละศพ ซึ่งผู้ที่ลงมือก่อเหตุต้องมีความชำนาญในการชำแหละศพ หรือมีความรู้ด้านการผ่าตัด หรือการชำแหละสัตว์ ที่ต้องใช้เครื่องตัดที่มีความคม เพราะจากรอยบาดแผลที่พบไม่แตกหัก ซึ่งการฆ่าหั่นศพในคดีนี้คล้ายกับคดีฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะที่คลองตัน และคดีฆ่าครูญี่ปุ่นที่จังหวัดสมุทรปราการก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ยังกล่าวอีกว่า ชิ้นส่วนที่ถูกชำแหละในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการใช้สก๊อตเทปใสพันข้อมือที่แขนขวาและใบหน้าของศพ ซึ่งรูปแบบนี้เข้าข่ายเป็นการทรมานก่อนฆ่า หรือพันเพื่อง่ายต่อการชำแหละศพ ซึ่งผู้ที่ลงมือก่อเหตุต้องมีความชำนาญในการชำแหละศพ หรือมีความรู้ด้านการผ่าตัด หรือการชำแหละสัตว์ ที่ต้องใช้เครื่องตัดที่มีความคม เพราะจากรอยบาดแผลที่พบไม่แตกหัก ซึ่งการฆ่าหั่นศพในคดีนี้คล้ายกับคดีฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะที่คลองตัน และคดีฆ่าครูญี่ปุ่นที่จังหวัดสมุทรปราการก่อนหน้านี้