MGR Online - นิติเวชยืนยันชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบลอยกระจายในน้ำเจ้าพระยามาจากคนเดียวกัน สันนิษฐานลักษณะบุคคล ชาย ผมดำหนวดเคราสั้น มีผมหงอก ลำตัวมีขนสีดำ และมีรอยแผลผ่าตัดไส้ติ่ง คาดเสียชีวิตก่อนถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์จริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการตรวจสอบชิ้นส่วนมนุษย์ในแม่น้ำเจ้าพระยา โดย พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ชิ้นส่วนศพที่ได้มาจะมีสองชุดใหญ่ ๆ ชุดแรกมี 4 ชิ้น ได้แก่ ศีรษะ ลำตัว ขา และแขน ซึ่งส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตรวจเสร็จแล้ว และยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนที่มาจากคนเดียวกัน เนื่องจากชิ้นส่วนสามารถต่อกันได้อย่างสนิท ขณะที่อีกส่วนคือที่ได้มาใหม่อีก 2 ชิ้น ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับรอยต่อต่าง ๆ ก็พบว่าสามารถเชื่อมต่อกันได้ จึงค่อนข้างมันใจว่า ชิ้นส่วนทั้ง 6 ชิ้น มาจากคนเดียวกัน รวมถึงเชื่อว่าผู้ตายคงเสียชีวิตก่อนที่จะถูกแยกชิ้นส่วนโดยไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเสียชีวิตได้ เนื่องจากชิ้นส่วนถูกแช่น้ำมาเป็นเวลานาน จึงตรวจสอบร่องรอยต่าง ๆ ได้ยาก และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชาวไทย หรือ ต่างชาติ แต่จากผลการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลพบว่า ผู้ตายน่าจะเป็นชาย ผมดำ มีหนวดเคราสั้น มีหงอกบ้างเล็กน้อย ตามลำตัวมีขนสีดำด้านหน้าค่อนข้างเยอะ และมีรอยแผลผ่าตัดไส้ติ่ง ส่วนฟันมีสภาพสะอาดปกติ ไม่มีร่องของของการอุดฟันแต่อย่างใด ส่วนสูง 165 ซม. ขึ้นไป อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งหากใครรู้จักหรือมีญาติที่มีลักษณะเช่นนี้ที่หายตัวไปสามารถเข้ามาติดต่อได้ทันที สำหรับผลตรวจดีเอ็นเอของชาวระยองที่สงสัยว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของญาติที่หายไปนั้น พบว่าไม่ตรงกับชิ้นส่วนที่พบแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า หากประชาชนท่านใดที่รู้จักหรือมีญาติ ที่มีลักษณะคล้ายกับข้อมูลของศพที่พบ สามารถเข้ามาติดต่อได้ทันทีทั้งที่สถาบันนิติเวชวิทยา และสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง หรือหากไม่สะดวกทางเจ้าหน้าที่จะอาจจะส่งทีมงานเข้าไปเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของญาติมาตรวจสอบเปรียบเทียบได้ และจากนี้ต่อไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร เพราะนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการขยายผลเพื่อหาตัวฆาตกรที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมในครั้งนี้
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังได้อนุมัติให้มีการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ โดยมี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ 10) เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกันตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 แพทย์นิติเวช สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มาร่วมหาเบาะแสเพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว โดยกำลังตรวจสอบแผนประทุษกรรมย้อนหลังกลับไปว่าพฤติกรรมฆ่าหั่นศพในลักษณะเช่นนี้ว่ามีใครบ้าง เพื่อเชื่อมโยงเทียบเคียงว่าตรงกับกลุ่มใด เนื่องจากเชื่อว่าผู้คงมือไม่ใช่คนเดียว พร้อมประสานไปยังกรมเจ้าท่าเพื่อตรวจสอบเรื่องกระแสน้ำขึ้นน้ำลงทำให้เชื่อว่าศพน่าจะถูกทิ้งในพื้นที่ บช.ภ. 1 ใน จ.ปทุมธานี หรือ นนทบุรี อย่างแน่นอน และยังเชื่อว่า คนร้ายน่าจะลงมือใกล้เคียงกับจุดที่นำศพไปทิ้งที่แม่น้ำเจ้าพระยา จึงเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม
“หากภายใน 3 สัปดาห์ ไม่มีผู้เข้ามาติดต่อขอตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับชิ้นส่วนที่พบหรือไม่ ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าผู้ตายอาจเป็นชาวต่างชาติที่ไม่มีญาติพี่น้อง ซึ่งคงต้องติดตามต่อไป และขอให้ทางสถาบันนิติเวชวิทยาทำภาพเชิงซ้อนของกะโหลกศีรษะ และชิ้นส่วนใบหน้าทั้งหมด เพื่อสเกตช์ภาพใบหน้าที่ชัดเจนอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังฝากถึงประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงสะพานใน จ.ปทุมธานี หรือนนทบุรี หากพบหรือทราบแบาะแส สามารถติดต่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ทันที” รอง ผบ.ตร. กล่าว และว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากประชาชน และจากคำแนะนำของ ผบ.ตร. ที่มีความเชี่ยวชาญในการสืบสวนสอบสวน รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่าจะสามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวว่า ผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ระบุว่าชิ้นส่วนศพแต่ละชิ้นเป็นคนคนเดียวกัน มีแนวโน้มเป็นชาวเอเชีย 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติจากลายนิ้วมือยังไม่ปรากฏว่า เคยมีการกระทำความผิดมาก่อน ตอนนี้ความสำคัญอยู่ที่การพิสูจน์ตัวบุคคล โดยคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า คนตายเป็นแขกขาวหรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ก็มีการพูดกันว่าเป็นแขกขาว ชาวจีน ชาวเอเชีย รวมไปถึงชาวตะวันออกกลาง เพราะบางครั้งไม่ว่าสัญชาติไทย หรือสัญชาติอื่น หากเกิดในประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นคนไทย ซึ่งก็ต้องไปพิสูจน์รายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ศพที่เจอน่าจะตายมาแล้วกี่วัน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า น่าจะตายมาแล้วประมาณ 3 วัน เพราะยังสามารถเก็บวัตถุพยานต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ แผลจากการตัดชิ้นส่วนศพน่าจะมาจากเลื่อยที่ใช้มือในการตัด เพราะมีรอยแหว่งของเนื้อ ทั้งนี้ การทิ้งชิ้นส่วนศพยังตั้งไว้หลายประเด็น คือ อาจจะมีการทิ้งลงมาจากสะพาน อีกกรณีคือนั่งเรือทิ้งชิ้นส่วนศพที่ละจุด เพราะส่วนมนุษย์ทั้ง 3 ชิ้น มีระยะห่างกันถึง 25 กม. อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ประสานกับกรมอุทกศาสตร์ เพื่อขอข้อมูลกระแสน้ำขึ้นน้ำลง เพื่อจะนำมาวิเคราะห์ว่าชิ้นส่วนศพถูกทิ้งมาที่ใด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ลักษณะของศพมีการทรมานก่อนลงมือฆ่าหรือไม่ ชุดสืบสวนเปิดเผยว่ายังไม่สามารถระบุได้ แต่บริเวณข้อมือด้านขวามีลักษณะเหมือนถูกเทปกาวพันไว้
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้นำคดีการหายตัวไปของ นายหลี่ ซิน ผู้สื่อข่าวชาวจีนวัย 37 ปี ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 59 โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการประสานกับญาติของนายหลี่ ซิน เพื่อทำการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับศพที่พบต่อไป ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า นายหลี่ ซิน ได้เดินทางออกจากประเทศไทย ไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลาประมาณ 07.15 น. โดยผ่านด่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพ 1 ตม.จว.หนองคาย บก.ตม.4 และยังไม่ได้เดินทางกลับเข้ามาที่ประเทศไทย