เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 มกราคม ร.ต.อ.ชิตพงศ์ ช่างประดิษฐ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ลอยมากลางลำน้ำเจ้าพระยา หน้าวัดตำหนักใต้ ถ.สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง มีพลเมืองดีใช้เชือกผูกมาไว้ที่โป๊ะหน้าวัด จึงไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบชิ้นส่วนช่วงระหว่างหัวเข่าถึงน่อง ลักษณะมีขนยาวผิวขาว พลเมืองดีใช้เชือกผูกติดไว้ที่โป๊ะหน้าเทียบเรือวัดตำหนักใต้ เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนลอยตามกระแสน้ำไป
สอบถามนายวิเชียร สุขโต อายุ 36 ปี คนขับเรือหางยาว ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 09 15 น. ขณะกำลังขับเรือกลับจากส่งผู้โดยสาร เมื่อมาถึงกลางลำน้ำเจ้าพระยาหน้าวัด สังเกตเห็นชิ้นส่วนคล้ายมนุษย์ลอยตามกระแสน้ำ จึงรีบใช้เชือกผูกลากเข้ามาไว้ผูกติดกับโป๊ะก่อนโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังส่งผู้โดยสารอยู่ตรงหน้าวัด ยังพบชิ้นส่วนขาตั้งแต่ช่วงเท้าจนถึงเข่าลอยอยู่กลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่ลากเข้าฝั่งไม่ทัน เนื่องจากติดส่งผู้โดยสาร ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบ น่าจะเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์คนเดียวกันกับที่พบในเขต สน.บวรมงคล เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะถูกตัดโดยของมีคม นำมาโยนทิ้งน้ำได้ 2 วัน แต่ยังไม่เน่าเปื่อย เนื่องจากกระแสน้าที่เย็นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.วันเดียวกัน มีการพบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติมอีกที่บริเวณท่าน้ำวัดโพธิ์ทองบน ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยเป็นชิ้นส่วนช่วงลำตัวของเพศชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้นำขึ้นมาบนฝั่ง และสันนิษฐานว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของคนเดียวกันกับที่พบก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นส่วนดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่าใช่คนเดียวกันกับที่พบก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้าน พ.ต.ท.สุภาพ เพชรรัตน์ สว.สส.สน.บวรมงคล กล่าวว่า ได้ส่งท่อนแขนมนุษย์ด้านขวาที่ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา มาติดริมตลิ่งภายในอู่ต่อเรือหลังวัดคฤหบดี เขตบางพลัด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา และชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบเพิ่มเติมบริเวณท่าน้ำวัดตำหนักใต้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ รวมทั้งพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อนำไปตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร์ว่าเป็นคนไทยหรือไม่เรียบร้อยแล้ว
“คาดว่าท่อนแขนและท่อนขาที่พบ จะเป็นแค่ส่วนหนึ่งจากอีกหลายๆส่วนที่ยังไม่ลอยขึ้นมา ซึ่งเจ้าของอาจเป็นชาวเอเชีย เช่น ชาวจีน หรือฮ่องกง เนื่องจากลักษณะท่อนแขน และท่อนขาที่พบมีร่องรอยจากการถูกทรมานอย่างหนัก ทั้งการใช้สก็อตเทปใสพัน หรืออาจใช้เชือกในการมัดตรึงไว้ เพื่อหวังให้ผู้ตายคายความลับ หรือหวังผลอย่างอื่น ซึ่งเป็นพฤติการณ์ของกลุ่มแก๊งชาวจีน หรือฮ่องกง ที่มีความโหดเหี้ยมมักใช้วิธีนี้ โดยจะทรมานเหยื่ออย่างหนัก เมื่อเหยื่อเสียชีวิตจะหั่นศพอย่างเลือดเย็น และนำมาโยนทิ้งน้ำ” พ.ต.ท.สุภาพ กล่าว
พ.ต.ท.สุภาพ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายสืบสวน สน.บวรมงคล ประสานงานกับฝ่ายสืบสวน สน.อื่นๆเรื่องการตามหาเบาะแสเกี่ยวกับแก๊งชาวจีน และฮ่องกง นอกจากนี้คาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้เกิดในพื้นที่ สน.บวรมงคล แต่อาจก่อเหตุจากที่อื่นแล้วนำชิ้นส่วนศพมาโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นจุดใด เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ติดต่อหลายจังหวัด ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีการเข้าตรวจค้นในพื้นที่จ.นนทบุรี แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ โดยคดีนี้คงต้องรอผลการตรวจสอบจากห้องแล็บสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อระบุสัญชาติเจ้าของท่อนแขนดังกล่าว ก่อนจะเร่งตามล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามนายวิเชียร สุขโต อายุ 36 ปี คนขับเรือหางยาว ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 09 15 น. ขณะกำลังขับเรือกลับจากส่งผู้โดยสาร เมื่อมาถึงกลางลำน้ำเจ้าพระยาหน้าวัด สังเกตเห็นชิ้นส่วนคล้ายมนุษย์ลอยตามกระแสน้ำ จึงรีบใช้เชือกผูกลากเข้ามาไว้ผูกติดกับโป๊ะก่อนโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังส่งผู้โดยสารอยู่ตรงหน้าวัด ยังพบชิ้นส่วนขาตั้งแต่ช่วงเท้าจนถึงเข่าลอยอยู่กลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่ลากเข้าฝั่งไม่ทัน เนื่องจากติดส่งผู้โดยสาร ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบ น่าจะเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์คนเดียวกันกับที่พบในเขต สน.บวรมงคล เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา และคาดว่าน่าจะถูกตัดโดยของมีคม นำมาโยนทิ้งน้ำได้ 2 วัน แต่ยังไม่เน่าเปื่อย เนื่องจากกระแสน้าที่เย็นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.วันเดียวกัน มีการพบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติมอีกที่บริเวณท่าน้ำวัดโพธิ์ทองบน ถ.ติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยเป็นชิ้นส่วนช่วงลำตัวของเพศชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้นำขึ้นมาบนฝั่ง และสันนิษฐานว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของคนเดียวกันกับที่พบก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นส่วนดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ว่าใช่คนเดียวกันกับที่พบก่อนหน้านี้หรือไม่
ด้าน พ.ต.ท.สุภาพ เพชรรัตน์ สว.สส.สน.บวรมงคล กล่าวว่า ได้ส่งท่อนแขนมนุษย์ด้านขวาที่ลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา มาติดริมตลิ่งภายในอู่ต่อเรือหลังวัดคฤหบดี เขตบางพลัด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา และชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบเพิ่มเติมบริเวณท่าน้ำวัดตำหนักใต้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ รวมทั้งพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อนำไปตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร์ว่าเป็นคนไทยหรือไม่เรียบร้อยแล้ว
“คาดว่าท่อนแขนและท่อนขาที่พบ จะเป็นแค่ส่วนหนึ่งจากอีกหลายๆส่วนที่ยังไม่ลอยขึ้นมา ซึ่งเจ้าของอาจเป็นชาวเอเชีย เช่น ชาวจีน หรือฮ่องกง เนื่องจากลักษณะท่อนแขน และท่อนขาที่พบมีร่องรอยจากการถูกทรมานอย่างหนัก ทั้งการใช้สก็อตเทปใสพัน หรืออาจใช้เชือกในการมัดตรึงไว้ เพื่อหวังให้ผู้ตายคายความลับ หรือหวังผลอย่างอื่น ซึ่งเป็นพฤติการณ์ของกลุ่มแก๊งชาวจีน หรือฮ่องกง ที่มีความโหดเหี้ยมมักใช้วิธีนี้ โดยจะทรมานเหยื่ออย่างหนัก เมื่อเหยื่อเสียชีวิตจะหั่นศพอย่างเลือดเย็น และนำมาโยนทิ้งน้ำ” พ.ต.ท.สุภาพ กล่าว
พ.ต.ท.สุภาพ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายสืบสวน สน.บวรมงคล ประสานงานกับฝ่ายสืบสวน สน.อื่นๆเรื่องการตามหาเบาะแสเกี่ยวกับแก๊งชาวจีน และฮ่องกง นอกจากนี้คาดว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้เกิดในพื้นที่ สน.บวรมงคล แต่อาจก่อเหตุจากที่อื่นแล้วนำชิ้นส่วนศพมาโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นจุดใด เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่ติดต่อหลายจังหวัด ขณะที่เมื่อคืนวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีการเข้าตรวจค้นในพื้นที่จ.นนทบุรี แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ โดยคดีนี้คงต้องรอผลการตรวจสอบจากห้องแล็บสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อระบุสัญชาติเจ้าของท่อนแขนดังกล่าว ก่อนจะเร่งตามล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป