ผู้จัดการรายวัน360-"จักรทิพย์"ลั่นต้องทำความจริงคดีฆ่าหั่นศพให้ปรากฎ นิติเวชระบุชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบทั้งหมดเป็นคนเดียวกัน แต่ไม่ใช่ลูกชายคนระยองที่หายตัวไป "พงศพัศ" เผยก่อเหตุกันเป็นทีม ใช้เครื่องตัดหั่นศพ ก่อนนำไปทิ้ง สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังบริเวณสะพานในจ.ปทุมธานี และนนทบุรี มั่นใจจับคนร้ายได้แน่
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงคดีที่มีการพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ตนได้สั่งการให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ซึ่งกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงไปดูในพื้นที่แล้ว ล่าสุดได้มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา โดยมี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ขณะนี้รอผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ ในส่วนของมูลเหตุนั้น ยังไม่ทราบ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่ยอมรับว่าคดีนี้ ยากพอสมควร เพราะมีหลายชิ้นหลายส่วน แต่ก็ต้องทำให้ความจริงปรากฎว่าที่มาที่ไปและสาเหตุของการตาย
พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล (ดีเอนเอ) ของชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกพบลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องหลายพื้นที่ จำนวน 4 ชิ้นส่วนที่ส่งมาให้ตรวจ เป็นบุคคลคนเดียวกัน เนื่องจากมีรอยต่อบรรจบติดกัน ส่วนอีกสองชิ้นส่วนที่ถูกส่งมาภายหลังเบื้องต้นสามารถต่อกันได้ แต่ต้องรอผลตรวจดีเอนเออีกครั้ง
สำหรับเอกลักษณ์บุคคลที่ตรวจพบ มีลักษณะเป็นผู้ชาย ยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ อายุประมาณ40ปี สูงมากกว่า165เซนติเมตร ผมดำ บริเวณใบหน้าหนวดเคราสั้น บริเวณลำตัวมีขนดก ฟันเรียงครบปกติไม่มีการอุดฟัน มีรอยสก็อตเทปติดอยู่บริเวณแขน อีกทั้งพบร่องรอยการผ่าตัดไส้ติ่งด้านขวา แต่เบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือฟกช้ำแต่อย่างใด
ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของนายศรี ขันติเนตร พ่อของนายเกียรติศักดิ์ ขันติเนตร หัวหน้าฝ่ายบุคคลโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ที่ญาติแจ้งว่าหายตัวไปก่อนหน้านี้ จากผลการตรวจสอบยืนยันว่าผลดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับศพที่พบแต่อย่างใด
ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า การฆ่าหั่นศพจากรอยตัดและการชำแหละ น่าจะเป็นเครื่องตัดขนาดใหญ่ และมีผู้ก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน และถูกฆ่าก่อนหั่นชิ้นส่วนมาทิ้ง ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นใคร จะมีการใช้เทคนิคภาพเชิงซ้อนจากกระโหลกศรีษะหรือเค้าโครงใบหน้าเพื่อดูลักษณะเบื้องต้น และเตรียมส่งกองทะเบียนประวัติอาชญากรทำการสเก็ตภาพ และยังจะนำข้อมูลในอดีตคดีฆ่าหั่นศพมาวิเคราะห์เทียบเคียง หาแผนประทุษกรรม ทั้งจากคนใกล้ชิด หรือแก๊งต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบริเวณที่ทิ้งศพ คาดว่า น่าจะถูกทิ้งลงจากสะพานในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1 ใน จ.ปทุมธานีและนนทบุรี และสันนิษฐานว่าจุดฆ่ากับจุดทิ้งชิ้นส่วนอยู่ไม่ไกลกัน แต่ไม่ยืนยันว่าชิ้นส่วนถูกทิ้งจากจุดเดียวกันหรือมาจากหลายจุด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสะพานใด โดยจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1เพื่อย้อนรอยเหตุการณ์ด้วย และเชื่อมั่นว่า หากทราบเบาะแสว่าผู้ตายเป็นใคร ก็จะสามารถสืบหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงคดีที่มีการพบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ว่า ตนได้สั่งการให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ซึ่งกำกับดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงไปดูในพื้นที่แล้ว ล่าสุดได้มีการตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมา โดยมี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ขณะนี้รอผลการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ ในส่วนของมูลเหตุนั้น ยังไม่ทราบ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่ยอมรับว่าคดีนี้ ยากพอสมควร เพราะมีหลายชิ้นหลายส่วน แต่ก็ต้องทำให้ความจริงปรากฎว่าที่มาที่ไปและสาเหตุของการตาย
พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ผลการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล (ดีเอนเอ) ของชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกพบลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาต่อเนื่องหลายพื้นที่ จำนวน 4 ชิ้นส่วนที่ส่งมาให้ตรวจ เป็นบุคคลคนเดียวกัน เนื่องจากมีรอยต่อบรรจบติดกัน ส่วนอีกสองชิ้นส่วนที่ถูกส่งมาภายหลังเบื้องต้นสามารถต่อกันได้ แต่ต้องรอผลตรวจดีเอนเออีกครั้ง
สำหรับเอกลักษณ์บุคคลที่ตรวจพบ มีลักษณะเป็นผู้ชาย ยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ อายุประมาณ40ปี สูงมากกว่า165เซนติเมตร ผมดำ บริเวณใบหน้าหนวดเคราสั้น บริเวณลำตัวมีขนดก ฟันเรียงครบปกติไม่มีการอุดฟัน มีรอยสก็อตเทปติดอยู่บริเวณแขน อีกทั้งพบร่องรอยการผ่าตัดไส้ติ่งด้านขวา แต่เบื้องต้นยังไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือฟกช้ำแต่อย่างใด
ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของนายศรี ขันติเนตร พ่อของนายเกียรติศักดิ์ ขันติเนตร หัวหน้าฝ่ายบุคคลโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ที่ญาติแจ้งว่าหายตัวไปก่อนหน้านี้ จากผลการตรวจสอบยืนยันว่าผลดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทำให้ไม่เกี่ยวข้องกับศพที่พบแต่อย่างใด
ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า การฆ่าหั่นศพจากรอยตัดและการชำแหละ น่าจะเป็นเครื่องตัดขนาดใหญ่ และมีผู้ก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน และถูกฆ่าก่อนหั่นชิ้นส่วนมาทิ้ง ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นใคร จะมีการใช้เทคนิคภาพเชิงซ้อนจากกระโหลกศรีษะหรือเค้าโครงใบหน้าเพื่อดูลักษณะเบื้องต้น และเตรียมส่งกองทะเบียนประวัติอาชญากรทำการสเก็ตภาพ และยังจะนำข้อมูลในอดีตคดีฆ่าหั่นศพมาวิเคราะห์เทียบเคียง หาแผนประทุษกรรม ทั้งจากคนใกล้ชิด หรือแก๊งต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบริเวณที่ทิ้งศพ คาดว่า น่าจะถูกทิ้งลงจากสะพานในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1 ใน จ.ปทุมธานีและนนทบุรี และสันนิษฐานว่าจุดฆ่ากับจุดทิ้งชิ้นส่วนอยู่ไม่ไกลกัน แต่ไม่ยืนยันว่าชิ้นส่วนถูกทิ้งจากจุดเดียวกันหรือมาจากหลายจุด แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสะพานใด โดยจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1เพื่อย้อนรอยเหตุการณ์ด้วย และเชื่อมั่นว่า หากทราบเบาะแสว่าผู้ตายเป็นใคร ก็จะสามารถสืบหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้