เคาน์ตีหนึ่งในมลรัฐเทกซัสเมื่อวันอังคาร(9ก.พ.) รายงานพบกรณีการติดเชื้อซิกาผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ก่อความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสที่มียุงเป็นพาหนะชนิดนี้ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นต้นตอที่ทำให้ทารกพิการตั้งแต่แรกคลอด
ศูนย์สาธารณสุขและบริการประชาชนดัลลัส เคาน์ตี เผยว่าคนไข้ติดเชื้อมาจากบุคคลรายหนึ่งซึ่งเคยเดินทางไปยังเวเนซุเอลา แต่ปฏิเสธระบุถึงเพศของนักเดินทางรายดังกล่าวหรือว่ามีผู้หญิงตั้งครรภ์เกี่ยวข้องหรือไม่
ถ้อยแถลงระบุว่า "ทางเคาน์ตีได้รับคำยืนยันจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ( ซีดีซี ) ว่าพบกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสซิการายแรกผ่านการมีเพศสัมพันธ์ในดัลลัส เคาน์ตี ในปี 2016" พร้อมเผยต่อว่า "คนไข้ติดเชื้อไวรัสหลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยคนหนึ่งที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีไวรัสซิกาปรากฎอยู่ และยืนยันกรณีนี้ได้ว่าไม่ได้ติดเชื้อจากการเดินทาง"
ทางโฆษกของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ไม่ได้สืบสวนวิธีการของการติดต่อ แต่ยืนยันกรณีพบผู้ติดเชื้อ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทางซีดีซี เผยว่าทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสซิกาผ่านการมีเพศสัมพันธ์กรณีหนึ่ง และกรณีพบไวรัสในน้ำเชื้ออสุจิของชายคนหนึ่ง หลังมันหายไปจากเลือดของเขา
ศูนย์สาธารณสุขและบริการประชาชนดัลลัส เคาน์ตี เผยว่าคนไข้ติดเชื้อมาจากบุคคลรายหนึ่งซึ่งเคยเดินทางไปยังเวเนซุเอลา แต่ปฏิเสธระบุถึงเพศของนักเดินทางรายดังกล่าวหรือว่ามีผู้หญิงตั้งครรภ์เกี่ยวข้องหรือไม่
ถ้อยแถลงระบุว่า "ทางเคาน์ตีได้รับคำยืนยันจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ( ซีดีซี ) ว่าพบกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสซิการายแรกผ่านการมีเพศสัมพันธ์ในดัลลัส เคาน์ตี ในปี 2016" พร้อมเผยต่อว่า "คนไข้ติดเชื้อไวรัสหลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยคนหนึ่งที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีไวรัสซิกาปรากฎอยู่ และยืนยันกรณีนี้ได้ว่าไม่ได้ติดเชื้อจากการเดินทาง"
ทางโฆษกของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ไม่ได้สืบสวนวิธีการของการติดต่อ แต่ยืนยันกรณีพบผู้ติดเชื้อ หลังจากสัปดาห์ที่แล้วทางซีดีซี เผยว่าทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสซิกาผ่านการมีเพศสัมพันธ์กรณีหนึ่ง และกรณีพบไวรัสในน้ำเชื้ออสุจิของชายคนหนึ่ง หลังมันหายไปจากเลือดของเขา