พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการในกรณีโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชำระค่าเสียหายให้แก่กิจการร่วมค้าเอ็นพีวีเอสเคจี เป็นเงินเกือบ 10,000 ล้านบาท รวมทั้งศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อ ว่าในเรื่องคลองด่านยังต้องรอการพิจารณาคดีของศาลฎีกาในคดีอาญา และการดำเนินการหาผู้รับผิดชอบในคดีละเมิดเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนให้กับรัฐ ทั้งนี้ในเรื่องการจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับกิจการร่วมค้าฯ ก็เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง และในส่วนในเรื่องการศึกษาหาแนวทางในการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่มีมติให้องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ไปร่วมกันดำเนินการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาโดยใช้งบประมาณประจำปี 30 ล้านบาทในการดำเนินการ ซึ่งน่าจะพอเพียงเพราะมีการศึกษามาโดยตลอด
ก่อนหน้านี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยมีการเสนอแปรญัตติงบประมาณผูกพันปี 2559-2560 กว่า 300 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในการศึกษาการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านตามความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การจะนำงบประมาณ 300 ล้านบาทมาใช้ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป และที่ผ่านมาก็มีผลการศึกษาอยู่แล้ว ซึ่งต้องนำผลการศึกษานี้มาพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ การกลับไปใช้ประโยชน์จากโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก เพราะไม่เคยมีการใช้งานมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เครื่องมือ อุปกรณ์บางอย่างก็กลายเป็นเศษเหล็ก เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ไม่ทันสมัยไปแล้ว หากจะใช้ต้องมีการลงทุนเพิ่มซึ่งจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องที่ดินของโครงการตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ซึ่งเรายังต้องรอคำตัดสินของศาลฎีกาอีก
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการยังมีความจำเป็น แต่อาจจะต้องทำเป็นจุดย่อย ๆ ในพื้นที่ที่มีปัญหา แทนที่จะเป็นระบบบำบัดรวมแบบคลองด่าน เพราะเราคงไม่สามารถปล่อยให้มีน้ำเสียถูกปล่อยลงทะเลได้อีกต่อไป ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ กำลังศึกษาอยู่
ก่อนหน้านี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยมีการเสนอแปรญัตติงบประมาณผูกพันปี 2559-2560 กว่า 300 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในการศึกษาการใช้ประโยชน์โครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านตามความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การจะนำงบประมาณ 300 ล้านบาทมาใช้ดำเนินการเรื่องนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป และที่ผ่านมาก็มีผลการศึกษาอยู่แล้ว ซึ่งต้องนำผลการศึกษานี้มาพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ การกลับไปใช้ประโยชน์จากโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก เพราะไม่เคยมีการใช้งานมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เครื่องมือ อุปกรณ์บางอย่างก็กลายเป็นเศษเหล็ก เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็ไม่ทันสมัยไปแล้ว หากจะใช้ต้องมีการลงทุนเพิ่มซึ่งจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องที่ดินของโครงการตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ซึ่งเรายังต้องรอคำตัดสินของศาลฎีกาอีก
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าระบบบำบัดน้ำเสียในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการยังมีความจำเป็น แต่อาจจะต้องทำเป็นจุดย่อย ๆ ในพื้นที่ที่มีปัญหา แทนที่จะเป็นระบบบำบัดรวมแบบคลองด่าน เพราะเราคงไม่สามารถปล่อยให้มีน้ำเสียถูกปล่อยลงทะเลได้อีกต่อไป ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ กำลังศึกษาอยู่