นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) จะร่วมเดินทางไปประเทศจีน กับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งครั้งนี้ไทยยืนยันให้จีนมีส่วนร่วมในโครงการเพิ่ม โดยเฉพาะสัดส่วนการลงทุน จากการหารือร่วมกันครั้งที่แล้ว ได้แจ้งจีนไปแล้ว ส่วนจะเป็นเท่าไร ไทยขอตรวจสอบเรื่องต้นทุนของการดำเนินโครงการทั้งหมด ให้แล้วเสร็จเรียบร้อยก่อน ขณะเดียวกัน จะหาวิธีผลักดันโครงการให้เดินหน้าก่อสร้างได้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร กระทรวงคมนาคมได้ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กลับไปพิจารณา ปรับลดตัวเลขกรอบวงเงินลงทุนใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ประชุมบอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เห็นชอบปรับกรอบเงินลงทุนจากกรอบเดิม 95,108 ล้านบาท เหลือ 94,080 ล้านบาท แต่พบว่าราคาที่ปรับลดลงนั้น เป็นการนำเฉพาะต้นทุนน้ำมัน มาประกอบการพิจารณาเท่านั้น
สำหรับหลักการปรับลดวงเงินตามนโยบายของรัฐบาล คือต้องปรับลดวงเงินการลงทุน โดยพิจารณาปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง ที่ผลิตขึ้นเองภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่วงเงินที่ รฟม.ปรับลดยังไม่ได้คิดคำนวณเรื่องการปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุในประเทศ จึงต้องให้ไปพิจารณาและส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงคมนาคมใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 21.2 กิโลเมตร กระทรวงคมนาคมได้ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กลับไปพิจารณา ปรับลดตัวเลขกรอบวงเงินลงทุนใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ประชุมบอร์ด รฟม. เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เห็นชอบปรับกรอบเงินลงทุนจากกรอบเดิม 95,108 ล้านบาท เหลือ 94,080 ล้านบาท แต่พบว่าราคาที่ปรับลดลงนั้น เป็นการนำเฉพาะต้นทุนน้ำมัน มาประกอบการพิจารณาเท่านั้น
สำหรับหลักการปรับลดวงเงินตามนโยบายของรัฐบาล คือต้องปรับลดวงเงินการลงทุน โดยพิจารณาปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้าง ที่ผลิตขึ้นเองภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น แต่วงเงินที่ รฟม.ปรับลดยังไม่ได้คิดคำนวณเรื่องการปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุในประเทศ จึงต้องให้ไปพิจารณาและส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงคมนาคมใหม่อีกครั้ง