xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.ฟันมาร์เก็ตติ้งสาวท้อง แฉวางแผนโอนหุ้น"ชูวงษ์"ใส่บัญชีแม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นางปะราลี สุคนธมาน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แถลงผลการตรวจสอบกรณีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนอย่างมีเงื่อนงำ ตกเป็นข่าวครึกโครมช่วงก่อนหน้านี้ ว่า ได้เพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน 3 ราย โดย น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือโบรกเกอร์สาวที่ตั้งท้อง เป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากพบว่าได้ใส่เบอร์โทรศัพท์ใหม่ลงไปในบัญชีนายชูวงษ์เพื่อให้การโอนหุ้นสำเร็จ โดย ก.ล.ต.ตรวจสอบเพียงว่าเบอร์ดังกล่าวไม่ใช่ของนายชูวงษ์ แต่ไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นเบอร์ของใคร นอกจากนี้ น.ส.อุรชายังเปิดบัญชีมารดาที่บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด โดยไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ จัดการโอนหุ้นโดยไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยที่ไม่ได้เป็นผู้แนะนำ (มาร์เก็ตติ้ง) ที่ดูแลโดยตรง

“กรณีการโอนหุ้นที่ปรากฏเป็นข่าว ก.ล.ต.พบว่าผู้แนะนำการลงทุนราย น.ส.อุรชาจัดการโอนหุ้นในบัญชีของลูกค้ารายหนึ่งเข้าบัญชีของมารดาตนเองโดยได้รับประโยชน์จากการรับโอนหุ้นดังกล่าวผ่านการเตรียมการไว้อย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่การเปิดบัญชีของมารดาโดยไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ให้บริษัททราบจัดการเกี่ยวกับการโอนหุ้นโดยไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงและไม่ได้เป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ดูแลบัญชีลูกค้าดังกล่าวจัดการให้ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทยืนยันการโอนหุ้นกับบุคคลที่น่าเชื่อว่าไม่ใช่ลูกค้าเจ้าของบัญชีและดำเนินการเพื่อให้เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์เข้าไปในระบบข้อมูลของลูกค้า ซึ่งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าลูกค้าได้แจ้งกับผู้แนะนำการลงทุนที่ดูแลบัญชีเพื่อขอเพิ่มหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวในระบบของบริษัทเพื่อให้การโอนหุ้นสำเร็จ”นางปะราลีกล่าว

นอกจากนี้ ยังพักการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน 2 รายซึ่งเป็นมาร์เก็ตติ้งที่ดูแลบัญชีโดยตรง ได้แก่ นายนัฐพล เฉลิมพจน์ เป็นเวลา 6 เดือน โดยพบว่านายนัฐพลทราบว่าผู้สั่งโทรโอนปลายสายไม่ใช่นายชูวงษ์ แต่ทำเป็นเรียกชื่อเพราะรู้ว่ามีการอัดเสียงสนทนาเพื่ออำพรางปกปิดบริษัทและหน่วยงานกำกับดูแล และสั่งพักการให้ความเห็นชอบการเป็นผู้แนะนำการลงทุนของ น.ส.พัชรีย์ ธัชธำรงชัย เป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากเป็นเพียงคนเดียวที่ให้การยอมรับว่า รับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชี โดยไม่มีหนังสือมอบอำนาจ

ทั้งนี้ จากการขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมพบระบบงานสำคัญที่บกพร่องของบริษัทหลักทรัพย์เออีซีหลายระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเกี่ยวกับการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ซึ่งปรากฏว่ามีอีกหลายบัญชีลูกค้าที่พบว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยให้ซื้อขายโดยไม่ได้ตรวจสอบฐานะการเงินอย่างแท้จริงเป็นต้นโดยคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบบริษัทหลักทรัพย์เออีซี เป็นเงิน 1,101,000 บาท รวมทั้ง ก.ล.ต.ได้ดำเนินการลงโทษผู้บริหารบริษัทรายนายธาดา จันทร์ประสิทธิ์ และนายพิสิทธิ์ ปทุมบาล โดยพักการให้ความเห็นชอบการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของผู้บริหาร รายละ 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2558 เนื่องจากละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานดังกล่าว ซึ่งจะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ปรับเงินตามโทษทางอาญาอีกรายละประมาณ 2 แสนบาท

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อขอข้อมูลดังกล่าวจาก ก.ล.ต. ทางสำนักงานพร้อมให้ความร่วมมือ เพราะก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อขอข้อมูลมาแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนคดีความทางการสืบสวนทางตำรวจเป็นอย่างไรไม่สามารถทราบได้
กำลังโหลดความคิดเห็น