MGR Online - รองอัยการสูงสุดบุกกองปราบฯ ทวงข้อมูลประกอบพร้อมถามความคืบหน้าคดี “เสี่ยชูวงษ์” ขณะที่รักษาการ ผบก.ป.เผยตั้งแต่รับตำแหน่งเรียกประชุมตลอด ทำหนังสือรายงานส่ง ก.ล.ต.แล้ว เตรียมสรุปปมการตาย กลางเดือนหน้า ด้าน ก.ล.ต.สั่งถอนใบประกอบอาชีพโบรกเกอร์สาวกิ๊กเสี่ยจืด 10 ปี
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ กก.1 บก.ป. แถลงข่าวความคืบหน้าคดีการคลี่คลายปมโอนหุ้นและการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจหมื่นล้านที่เสียชีวิตขณะโดยสารรถยนต์เลกซัส สีดำ แอลเอ็กซ์ 470 ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ เป็นคนขับและเกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ตรงข้ามซอย 61 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตสวนหลวง กทม.จนเสียชีวิต
โดย พล.ต.ต.ชาญกล่าวว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเมื่อวานนี้ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีความเห็นสั่งเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพผู้แนะนำการลงทุน หรือ โบรกเกอร์ ของ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาว หนึ่งในผู้ต้องหาคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์เป็นเวลา 10 ปี และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางรองอัยการสูงสุดเดินทางเข้ามาสอบถามความคืบหน้าคดีการโอนหุ้นนายชูวงษ์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เอาผิดต่อพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าบริษัททั้ง 2 บริษัทที่รับโอนหุ้นของนายชูวงษ์มีความผิด รวมทั้งทางอัยการให้ทำหนังสือขอผลการตรวจสอบของ ก.ล.ต. และการเพิกถอนใบอนุญาติของ น.ส.อุรชา ไปประกอบสำนวนคดีในชั้นอัยการเพิ่มเติม เพื่อเป็นประโยชน์ทางคดี และอัยการยังให้พนักงานสอบสวนกลับมาตรวจสอบสำนวนคดีอย่างน้อย 1 สำนวนในบางประเด็นที่มีข้อสงสัย จากทั้งสิ้น 20 สำนวนซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
พล.ต.ต.ชาญกล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่าทางเราได้มีการประชุมติดตามคดีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ตนได้มาดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการ บก.ป.ได้มีการเรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับความคืบหน้าในเรื่องของการโอนหุ้นนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือรายงานผลต่อ ก.ล.ต.ไปเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ต.ชาญกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการตายนายชูวงษ์นั้นทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้รับรายงานผลจากผู้เชี่ยวชาญด้านจราจร อุบัติเหตุแล้ว อยู่ในระหว่างการดำเนินนำผลมาตรวจสอบว่าผลจะออกมาอย่างไร ต้องนำผลมาวิเคราะห์ในรูปแบบเชิงวิชาการ โดยคาดว่าจะสรุปผลได้ประมาณกลางเดือนมกราคม หลังจากนั้นจะนำผลดังกล่าวไปสอบกับทางแพทย์นิติเวช สำหรับการออกหมายจับในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะต้องรอผลการสอบจากแพทย์นิติเวชก่อน
พล.ต.ต.ชาญกล่าวอีกว่า ทาง ก.ล.ต.ได้นำสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการ ซึ่งในวันนี้อัยการต้องการผลบันทึกของ ก.ล.ต. ซึ่งทาง ก.ล.ต.ต้องทำบันทึกส่งทางอัยการเพื่อตรวจสอบพนักงานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีการโอนหุ้นเพื่อเอาผิดต่อพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวของในคดีดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้รับผลจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) แล้ว ขั้นตอนต่อไปเปิดกับคณะกรรมการจากนั้นหากพบข้อสงสัยจะให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นนั้นๆ สำหรับ ก.ล.ต.จะเอาผิดต่อทางพนักงานหรือไม่นั้นอยู่ที่ดุลพินิจของอัยการ
