นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดี กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า วันที่ 23 ธันวาคมนี้ คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาประเมินราคาที่ดิน ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน จะมีการประชุมนัดสุดท้าย เพื่ออนุมัติราคาประเมินที่ดินใหม่ทั้งประเทศ ซึ่งจะประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 ถึง 31 ธันวาคม 2562 หรือเป็นเวลา 4 ปี ที่ผ่านมาคณะกรรมการได้พิจารณา เห็นชอบราคาประเมินที่ดินใหม่ไปเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งได้มีการรวบรวมเพื่อประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป โดยภาพรวมราคาที่ดินทั่วประเทศราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 25% เนื่องจากมีราคาที่ดินหลายส่วนปรับ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ตาม เส้นทางคมนาคมขนส่งที่สร้างขึ้นใหม่ ทั้งรถไฟฟ้า ถนนมอเตอร์เวย์ รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษ
สำหรับราคาประเมินใหม่นี้มีทั้งหมด 30 ล้านแปลงมีการประเมินเป็นรายแปลง 12.6 ล้านแปลง ที่เหลือเป็นราคาประเมินรายบล็อก ซึ่งจะเร่งดำเนินการ ประเมินรายแปลงให้ได้ทั้งหมดภายในปี 2560 จะได้รองรับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่การเก็บภาษีจะเก็บจากราคาประเมินที่ดินเป็นรายแปลง
ทั้งนี้ ราคาประเมินใหม่ครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯที่ราคาประเมินขึ้นเฉลี่ย 15% เพราะที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีราคาประเมินเพิ่มขึ้นถึง 70-75% เนื่องจากมีความต้องการจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นที่สนใจของผู้บริโภค
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า ในส่วนของทหารที่ต้องการนำพื้นที่ราชพัสดุ ในเขตพื้นที่ทหารไปให้เอกชนเช่าทำ โซลาร์ฟาร์ม ทางหน่วยงานทหารต้องคืนพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้กรมธนารักษ์ และค่อยเช่ากลับไปเพื่อทำการพาณิชย์ ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้ามาทำประโยชน์ ได้รวดเร็วขึ้น ทางสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะทำได้หรือไม่
สำหรับราคาประเมินใหม่นี้มีทั้งหมด 30 ล้านแปลงมีการประเมินเป็นรายแปลง 12.6 ล้านแปลง ที่เหลือเป็นราคาประเมินรายบล็อก ซึ่งจะเร่งดำเนินการ ประเมินรายแปลงให้ได้ทั้งหมดภายในปี 2560 จะได้รองรับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่การเก็บภาษีจะเก็บจากราคาประเมินที่ดินเป็นรายแปลง
ทั้งนี้ ราคาประเมินใหม่ครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลได้ค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯที่ราคาประเมินขึ้นเฉลี่ย 15% เพราะที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีราคาประเมินเพิ่มขึ้นถึง 70-75% เนื่องจากมีความต้องการจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นที่สนใจของผู้บริโภค
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า ในส่วนของทหารที่ต้องการนำพื้นที่ราชพัสดุ ในเขตพื้นที่ทหารไปให้เอกชนเช่าทำ โซลาร์ฟาร์ม ทางหน่วยงานทหารต้องคืนพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้กรมธนารักษ์ และค่อยเช่ากลับไปเพื่อทำการพาณิชย์ ส่วนการแก้ไข พ.ร.บ.ร่วมทุนรัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้ามาทำประโยชน์ ได้รวดเร็วขึ้น ทางสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะทำได้หรือไม่