ความคืบหน้าอาการป่วยของพระเอกหนุ่มปอ ทฤษฎี สหวงษ์ หลังเข้ารับการรักษาจากอาการไข้เลือดออกอย่างรุนแรงที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นวันที่ 33 ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้นอย่างเป็นลำดับ
ล่าสุดนายศรมนตรา พิชัยศรแผลง หรือ อาน้ำอ้อย ผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่ม ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของปอว่า อาการโดยรวมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ปอด ตับ ไต ทุกอย่างยังทรง และต้องเฝ้าระวังเหมือนเดิม วันนี้โบว์ได้เข้าไปหาปอในห้อง 2-3 รอบ แต่ใช้เวลาไม่นานนัก มีการพูดคุยกันเล็กน้อย ทุกครั้งที่ปอตื่นเขาจะพูดคุยนั่นนี่โน่นตลอดจนเหนื่อย วันนี้มะลิไม่ได้มาเพราะมีอาการแพ้บางอย่าง มีผื่นแดงๆ ขึ้นมา แต่พอทาครีมสักพักก็หาย แต่เราก็ได้อัดคลิปเสียงมะลิ เข้าไปเปิดให้ปอฟัง
ทางคณะแพทย์อยากจะให้ปอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีการให้สารอาหาร ให้นมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คือนอกเหนือจากการหายใจและการตอบสนอง ด้านการสื่อสารดีขึ้น ผิวพรรณของปอเริ่มดีขึ้น ใบหน้าดูสดใส ดูหล่อขึ้น ถือว่า อาการเป็นไปในทิศทางบวก แต่ก็ต้องรอดูอีก 3 วัน วันนี้หมอได้พาปอไปเอ็กซเรย์ตรวจเช็คในส่วนอื่นๆ ว่าดีขึ้นแค่ไหน และมีการผ่าตัดเพื่อเย็บปลายลำไส้เล็กน้อย เพราะมีเลือดออก ซึ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตามตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่องที่ทางครอบครัว สหวงษ์ รู้สึกไม่เข้าใจคือก่อนหน้านี้มีการเรี่ยไรเงิน เพื่อทำพระให้ปอ แต่ก็เคลียร์จบไปแล้ว แต่ตอนนี้เรื่องใหม่เข้ามาคือ การจะทำเสื้อมะลิเกิดขึ้น เราเคยพูดอยู่เสมอว่า ก่อนจะทำอะไร คนที่ทำควรเข้ามาแนะนำตัวว่า เป็นเจ้าของเพจ ต้องการจะทำเสื้อ ถ้ามาบอกกันก่อนเราไม่ว่าเลย ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่คุยกันได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาไม่เข้ามาคุยกับเรา เขาทำดีมาโดยตลอด มันน่าเสียดาย สำหรับเรามีความรู้สึกว่าปอยังเจ็บอยู่ ขณะเดียวกัน น้องมะลิ ก็กลายเป็นที่รักของทุกคน จึงเกรงว่าสังคมจะมองว่า เป็นการหาผลประโยชน์จากน้องมะลิหรือไม่
"ถ้าปอตื่นขึ้นมาอาเชื่อว่า เขาต้องไม่แฮปปี้แน่ๆ แต่หลังจากที่โบโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วย เขาปิดเพจไปเลย โดยไม่ได้มีการกล่าวขอโทษ ก่อนหน้านี้เขาลงรูปมะลิมาโดยตลอด มันน่ารักนะ มีคนติดตามเยอะมาก เราเคยยินดีกับสิ่งที่เขาทำให้ แต่วันนี้กลายเป็นว่าต้องยิ้มหุบ เพราะคุณทำร้ายตัวเอง อยากให้เขาเข้ามาแนะนำตัวกับเรา เราพร้อมให้อภัย และยินดีที่คุณรัก เอ็นดูมะลิ รวมถึงติดตามข่าวสารของปอ แต่อย่าทำร้ายกันแบบนี้ จริงๆ มีหลายคนที่อยากจะทำโน่นนี่ให้ปอ แต่พอเราบอกว่ารอปอก่อนดีกว่า ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะรอ"
ล่าสุดนายศรมนตรา พิชัยศรแผลง หรือ อาน้ำอ้อย ผู้จัดการส่วนตัวของดาราหนุ่ม ได้เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยของปอว่า อาการโดยรวมยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ปอด ตับ ไต ทุกอย่างยังทรง และต้องเฝ้าระวังเหมือนเดิม วันนี้โบว์ได้เข้าไปหาปอในห้อง 2-3 รอบ แต่ใช้เวลาไม่นานนัก มีการพูดคุยกันเล็กน้อย ทุกครั้งที่ปอตื่นเขาจะพูดคุยนั่นนี่โน่นตลอดจนเหนื่อย วันนี้มะลิไม่ได้มาเพราะมีอาการแพ้บางอย่าง มีผื่นแดงๆ ขึ้นมา แต่พอทาครีมสักพักก็หาย แต่เราก็ได้อัดคลิปเสียงมะลิ เข้าไปเปิดให้ปอฟัง
ทางคณะแพทย์อยากจะให้ปอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีการให้สารอาหาร ให้นมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น คือนอกเหนือจากการหายใจและการตอบสนอง ด้านการสื่อสารดีขึ้น ผิวพรรณของปอเริ่มดีขึ้น ใบหน้าดูสดใส ดูหล่อขึ้น ถือว่า อาการเป็นไปในทิศทางบวก แต่ก็ต้องรอดูอีก 3 วัน วันนี้หมอได้พาปอไปเอ็กซเรย์ตรวจเช็คในส่วนอื่นๆ ว่าดีขึ้นแค่ไหน และมีการผ่าตัดเพื่อเย็บปลายลำไส้เล็กน้อย เพราะมีเลือดออก ซึ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตามตอนนี้มีอยู่ 2 เรื่องที่ทางครอบครัว สหวงษ์ รู้สึกไม่เข้าใจคือก่อนหน้านี้มีการเรี่ยไรเงิน เพื่อทำพระให้ปอ แต่ก็เคลียร์จบไปแล้ว แต่ตอนนี้เรื่องใหม่เข้ามาคือ การจะทำเสื้อมะลิเกิดขึ้น เราเคยพูดอยู่เสมอว่า ก่อนจะทำอะไร คนที่ทำควรเข้ามาแนะนำตัวว่า เป็นเจ้าของเพจ ต้องการจะทำเสื้อ ถ้ามาบอกกันก่อนเราไม่ว่าเลย ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่คุยกันได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเขาไม่เข้ามาคุยกับเรา เขาทำดีมาโดยตลอด มันน่าเสียดาย สำหรับเรามีความรู้สึกว่าปอยังเจ็บอยู่ ขณะเดียวกัน น้องมะลิ ก็กลายเป็นที่รักของทุกคน จึงเกรงว่าสังคมจะมองว่า เป็นการหาผลประโยชน์จากน้องมะลิหรือไม่
"ถ้าปอตื่นขึ้นมาอาเชื่อว่า เขาต้องไม่แฮปปี้แน่ๆ แต่หลังจากที่โบโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วย เขาปิดเพจไปเลย โดยไม่ได้มีการกล่าวขอโทษ ก่อนหน้านี้เขาลงรูปมะลิมาโดยตลอด มันน่ารักนะ มีคนติดตามเยอะมาก เราเคยยินดีกับสิ่งที่เขาทำให้ แต่วันนี้กลายเป็นว่าต้องยิ้มหุบ เพราะคุณทำร้ายตัวเอง อยากให้เขาเข้ามาแนะนำตัวกับเรา เราพร้อมให้อภัย และยินดีที่คุณรัก เอ็นดูมะลิ รวมถึงติดตามข่าวสารของปอ แต่อย่าทำร้ายกันแบบนี้ จริงๆ มีหลายคนที่อยากจะทำโน่นนี่ให้ปอ แต่พอเราบอกว่ารอปอก่อนดีกว่า ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะรอ"