ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า เพื่อดูว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,574.75 จุด เพิ่มขึ้น 82.45 จุด หรือ +0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,045.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.30 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,052.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติราคาพลังงานและกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 เดือนและมีส่วนช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นอาปาเช คอร์ป และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้นกว่า 2.1%
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.6%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยดัชนี KBW Bank Index ปิดบวก 0.5% ขณะที่หุ้นธนาคารคีย์คอร์ป และหุ้นธนาคารเรเจียนส์ ไฟแนนเชียลส์ คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี หุ้น Qorvo Inc หุ้นเอวาโก เทคโนโลยีส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.1% ขณะที่หุ้นซีร็อกซ์ และหุ้นเอชพี อิงค์ ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 1.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นดาว เคมิคอล ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่า ดาว เคมีคอล และดูปองท์ กำลังเจรจาควบรวมกิจการ และหลังจากนั้นจะแยกออกเป็น 3 บริษัท ซึ่งจะเน้นหนักในธุรกิจการเกษตร, เคมีภัณฑ์ และวัสดุ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,574.75 จุด เพิ่มขึ้น 82.45 จุด หรือ +0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,045.17 จุด เพิ่มขึ้น 22.30 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,052.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด หรือ +0.23%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติราคาพลังงานและกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม โดยหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 เดือนและมีส่วนช่วยหนุนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย ขณะที่หุ้นอาปาเช คอร์ป และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ปรับตัวขึ้นกว่า 2.1%
การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิงส์ และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.6%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยดัชนี KBW Bank Index ปิดบวก 0.5% ขณะที่หุ้นธนาคารคีย์คอร์ป และหุ้นธนาคารเรเจียนส์ ไฟแนนเชียลส์ คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.2%
ส่วนหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี หุ้น Qorvo Inc หุ้นเอวาโก เทคโนโลยีส์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.1% ขณะที่หุ้นซีร็อกซ์ และหุ้นเอชพี อิงค์ ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 1.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นดาว เคมิคอล ร่วงลง 2.6% หลังจากมีรายงานว่า ดาว เคมีคอล และดูปองท์ กำลังเจรจาควบรวมกิจการ และหลังจากนั้นจะแยกออกเป็น 3 บริษัท ซึ่งจะเน้นหนักในธุรกิจการเกษตร, เคมีภัณฑ์ และวัสดุ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมเฟดในวันที่ 16-17 ธ.ค.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้