ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ลดลง 75.70 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 17,492.30 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 อ่อนตัวลง 15.97 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 2,047.62 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วง 75.38 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 5,022.87 จุด
หุ้นดาวเคมิคอล และดูปองท์ พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังมีรายงานข่าวว่า บริษัททั้งสองกำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อควบรวมกิจการ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของเฟด ในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยล่าสุดนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
การแสดงความเห็นของนายล็อคฮาร์ทมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ลดลง 75.70 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 17,492.30 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 อ่อนตัวลง 15.97 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 2,047.62 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วง 75.38 จุด หรือ 1.48% ปิดที่ 5,022.87 จุด
หุ้นดาวเคมิคอล และดูปองท์ พุ่งขึ้นกว่า 10% หลังมีรายงานข่าวว่า บริษัททั้งสองกำลังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อควบรวมกิจการ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของเฟด ในวันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ เพื่อดูว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยล่าสุดนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินในปัจจันอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
การแสดงความเห็นของนายล็อคฮาร์ทมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
