พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บังคับการสายตรวจและตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 แถลงผลจับกุม นายจิงคุง แซ่เตียว อายุ 59 ปี แก๊งดอลลาร์ปลอมปล่อยขายผู้ประกอบการนักท่องเที่ยว ถูกจับได้ที่โรงแรมย่านถนนกรุงเกษม พร้อมของกลางธนบัตรปลอม 100 ดอลลาร์สหรัฐเกรดเอ จำนวน 483 ฉบับ คิดเป็นเงิน 48,300 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,690,500 บาท
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีเพื่อนชาวลาว ซึ่งอยู่ที่แขวงสุวรรณเขต นำธนบัตรดอลลาร์ปลอมมาส่งให้ที่บ้านที่มุกดาหาร เพื่อให้นำมาส่งที่กรุงเทพฯ โดยจะมีลูกค้าชาวไทยมารับไปปล่อยขายต่อ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายย่อย ในพื้นที่ห้วยขวาง ลุมพินี บางรัก และเยาวราช โดยนายจิงคุง ได้รับค่าจ้างใบละ 100 บาท
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายังพบว่า เคยถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในคดียาเสพติด แต่จำเลยรับสารภาพ จึงได้รับการลดโทษ และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 54 ซึ่งขณะนี้ ตำรวจกำลังขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ และฝากแนะนำถึงวิธีการตรวจสอบธนบัตรปลอม โดยสังเกต 3 จุด คือบริเวณหน้าแบงค์ด้านขวา ถ้าส่องกับแสง จะเห็นเป็นลายน้ำรูปหน้าบุคคล ซึ่งตรงกับลายหน้าบุคคลบนธนบัตร จุดที่ 2 คือเส้นใยใส ที่จะมีตัวหนังสือระบุมูลค่าบัตร ปรากฏอยู่ที่ด้านบนซ้ายธนบัตร และจุดที่ 3 คือเลขมูลค่าธนบัตร จะสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อส่องดูจากมุมที่ต่างกัน
ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีเพื่อนชาวลาว ซึ่งอยู่ที่แขวงสุวรรณเขต นำธนบัตรดอลลาร์ปลอมมาส่งให้ที่บ้านที่มุกดาหาร เพื่อให้นำมาส่งที่กรุงเทพฯ โดยจะมีลูกค้าชาวไทยมารับไปปล่อยขายต่อ ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวรายย่อย ในพื้นที่ห้วยขวาง ลุมพินี บางรัก และเยาวราช โดยนายจิงคุง ได้รับค่าจ้างใบละ 100 บาท
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายังพบว่า เคยถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ในคดียาเสพติด แต่จำเลยรับสารภาพ จึงได้รับการลดโทษ และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 54 ซึ่งขณะนี้ ตำรวจกำลังขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ และฝากแนะนำถึงวิธีการตรวจสอบธนบัตรปลอม โดยสังเกต 3 จุด คือบริเวณหน้าแบงค์ด้านขวา ถ้าส่องกับแสง จะเห็นเป็นลายน้ำรูปหน้าบุคคล ซึ่งตรงกับลายหน้าบุคคลบนธนบัตร จุดที่ 2 คือเส้นใยใส ที่จะมีตัวหนังสือระบุมูลค่าบัตร ปรากฏอยู่ที่ด้านบนซ้ายธนบัตร และจุดที่ 3 คือเลขมูลค่าธนบัตร จะสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อส่องดูจากมุมที่ต่างกัน
