MGR ONLINE CRIME - ตำรวจ 191 ตามรวบแก๊งค้ายาไอซ์ชาวไนจีเรีย และเพื่อนร่วมแก๊งชาวไทย หลังสายลับแจ้งมีการจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ย่านรามคำแหง พร้อมยึดของกลางยาไอซกว่าสองกิโลกรัม นำตัวส่งพนักงานสอบดำเนินคดี
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 191 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจ ร่วมแถลงผลการจับกุม นายเอ็กเพิล ซามูแอล (Mr.Ekpel Samuel) อายุ 35 ปี สัญชาติไนจีเรีย และ นายคฑาวุธ ชมพิกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.2 ต.เอกราช อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 2,047 กรัม เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง และหนังสือเดินทางต่างประเทศ
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า มีกลุ่มลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้วัยรุ่นในพื้นที่ย่านรามคำแหง และเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ติดตามจับกุม นายไมเคิล อัคบาโคลา ชิกโกซี่ อายุ 30 ปี สัญชาติไนจีเรีย กับ น.ส.วันเพ็ญ ดีสา อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 30.1 กรัม และ เงินสด 500,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้มีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ จากนั้นทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด จนกระทั่งวันที่ 6 พ.ย. ได้รับแจ้งว่า จะมีการส่งยาเสพติดภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง ซึ่งเปิดห้องพักแบบรายเดือนสำหรับเป็นที่พักยาและเสพยาเสพติด จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าสังเกตการณ์ และพบผู้ต้องหา คือ นายคฑาวุธ เดินเข้าไปในห้องพักเลขที่ 611 ชั้น 6 พบของกลางจำนวน 20 กรัม ก่อนควบคุมขยายผลจับกุม นายเอ็กเพิล ซามูแอล (Mr.Ekpel Samuel) ภายในห้องพักเลขที่ 415 ชั้น 4 ของคอนโดเดียวกัน พบยาไอซ์ จำนวน 2,027 กรัม
ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนโดยเฉพาะหญิงสาวชาวไทยอย่าไปหลงเชื่อกลุ่มชาวต่างชาติผิวสีที่เข้ามาพูดคุยดี หว่านล้อม เนื่องจากเป็นแก๊งขบวนการยาเสพติด หากหลงเชื่อเข้าร่วมขบวนการจะถูกชักจูงไปเป็นผู้ประสานหาลูกค้าลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในที่สุด ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า นำยาไอซ์มาจากหญิงชาวไทยที่ชื่อว่า “เจ๊” โดยจะได้รับค่าจ้างในการจัดส่งยา ครั้งละ 1,000 ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 หรือยาไอซ์ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป
