เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2558 นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามสัญญาซื้อขายข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ 1 ล้านตัน กับ COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดูแลการนำเข้าข้าวของจีน และการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามซื้อขายยางพารา 200,000 ตัน กับ SINOCHEM ที่เป็นการดำเนินการภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพฯ ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าว เกิดขึ้นในโอกาสที่กระทรวงคมนาคมได้ลงนามกรอบความร่วมมือ (Framework of Cooperation) ภายใต้ MOU กับรัฐบาลจีน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย
สำหรับสัญญาซื้อขายข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ 1 ล้านตัน มีกำหนดส่งมอบข้าวเป็นรายงวดเฉลี่ยเดือนละ 100,000 ตัน โดยราคาซื้อขายจะเจรจาต่อรองตามราคาตลาดโลกขณะส่งมอบแต่ละงวด ซึ่งจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ต้นปี และจะเสร็จสิ้นภายในปี 59
“การลงนามสัญญาซื้อขายข้าวในครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่จีนได้ให้ความสนใจที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อขายข้าวจากรัฐบาลไทย เพราะปัจจุบันไทยอยู่ในระหว่างการส่งมอบให้จีนภายใต้สัญญาฉบับปัจจุบัน ที่ลงนามในรัฐบาลที่ผ่านมา 1 ล้านตัน ซึ่งมีการส่งมอบไปแล้ว 80% หรือ 800,000 ตัน โดยคาดว่าจะส่งมอบครบตามจำนวนภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นจีนจะสามารถเริ่มคำสั่งซื้องวดแรก ภายใต้สัญญาฉบับใหม่ได้ตั้งแต่ต้น ปี 59 เป็นต้นไป” รมว.พาณิชย์ กล่าว
นางอภิรดี กล่าวอีกว่า ภายใต้ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน จีนตกลงในหลักการที่จะซื้อขายข้าวไทยอีก 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นล้านตันที่สอง โดยในวันที่ 4 ธ.ค.58 คณะทำงานด้านเทคนิคสินค้าข้าวของฝ่ายไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศจะมีการเจรจาหารือรายละเอียดกับ COFCO เพื่อเตรียมการทำสัญญาซื้อขายเพิ่มเติมต่อไป และสัญญาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันที่สอง จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดในระยะยาว เพราะจะสามารถรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ของไทยได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2560
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือน พ.ค. 2557 ที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศ จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลต่างประเทศ ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งหากรวมการขายข้าวให้รัฐบาลจีนอีก 1 ล้านตันในครั้งนี้ คิดเป็นปริมาณรวม 3.4 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท และในอนาคตรัฐบาลไทยมีแผนที่จะเจรจาซื้อขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลางเพิ่มเติมอีก
สำหรับสัญญาซื้อขายข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ 1 ล้านตัน มีกำหนดส่งมอบข้าวเป็นรายงวดเฉลี่ยเดือนละ 100,000 ตัน โดยราคาซื้อขายจะเจรจาต่อรองตามราคาตลาดโลกขณะส่งมอบแต่ละงวด ซึ่งจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ต้นปี และจะเสร็จสิ้นภายในปี 59
“การลงนามสัญญาซื้อขายข้าวในครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณเชิงบวกที่จีนได้ให้ความสนใจที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อขายข้าวจากรัฐบาลไทย เพราะปัจจุบันไทยอยู่ในระหว่างการส่งมอบให้จีนภายใต้สัญญาฉบับปัจจุบัน ที่ลงนามในรัฐบาลที่ผ่านมา 1 ล้านตัน ซึ่งมีการส่งมอบไปแล้ว 80% หรือ 800,000 ตัน โดยคาดว่าจะส่งมอบครบตามจำนวนภายในสิ้นปีนี้ จากนั้นจีนจะสามารถเริ่มคำสั่งซื้องวดแรก ภายใต้สัญญาฉบับใหม่ได้ตั้งแต่ต้น ปี 59 เป็นต้นไป” รมว.พาณิชย์ กล่าว
นางอภิรดี กล่าวอีกว่า ภายใต้ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-จีน จีนตกลงในหลักการที่จะซื้อขายข้าวไทยอีก 1 ล้านตัน ซึ่งเป็นล้านตันที่สอง โดยในวันที่ 4 ธ.ค.58 คณะทำงานด้านเทคนิคสินค้าข้าวของฝ่ายไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศจะมีการเจรจาหารือรายละเอียดกับ COFCO เพื่อเตรียมการทำสัญญาซื้อขายเพิ่มเติมต่อไป และสัญญาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันที่สอง จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดในระยะยาว เพราะจะสามารถรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ของไทยได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2560
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อเดือน พ.ค. 2557 ที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศ จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลไทยได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับรัฐบาลต่างประเทศ ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งหากรวมการขายข้าวให้รัฐบาลจีนอีก 1 ล้านตันในครั้งนี้ คิดเป็นปริมาณรวม 3.4 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท และในอนาคตรัฐบาลไทยมีแผนที่จะเจรจาซื้อขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคแอฟริกา และตะวันออกกลางเพิ่มเติมอีก