ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากาคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายคัมภีร์ สมใจ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานและทรัพยากรบุคคล กรณีเบิกงบจัดสัมมนา ที่จังหวัดน่าน แต่ไม่ได้มีการจัดสัมมนาจริง
คดีนี้อัยการส่งฟ้องเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 กรณีการจัดสัมมนา ที่จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปี 2546 โดยคณะทำงานร่วมได้มีหนังสือแจ้งให้ ป.ป.ช.นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา โดยกล่าวหาว่า เมื่อครั้งคุณหญิงจารุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมกับพวก จัดให้มีการสัมมนาขึ้นที่จังหวัดน่านทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่เพื่อให้บุคคลที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนาไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน จึงสามารถเบิกค่าเดินทางค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากหลักฐานทั้งหมดของคณะกรรมการไต่สวน
สามารถนำมาหักล้างกับคำให้การของจำเลยทั้งสองได้ โดยการจัดสัมมนาในหัวข้อ "สตง.ในความคิดวุฒิสภา" ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนา และหัวข้อที่ใช้บรรยายไม่ใช่การสัมมนาส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน 294,440 บาท และถือเป็นการจัดสัมมนาเท็จ เพียงเพื่อหาคนไปร่วมงานกฐินพระราชทาน ซึ่งตรงกับวันสัมมนาเท่านั้น ซึ่งจำเลยทั้งสอง ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 83 พิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ศาลเห็นว่า จำเลยทั้งสอง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จึงอนุญาตให้ทนายทำเรื่องขอปล่อยชั่วคราวได้
คดีนี้อัยการส่งฟ้องเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคุณหญิงจารุวรรณ และนายคัมภีร์ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 กรณีการจัดสัมมนา ที่จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ปี 2546 โดยคณะทำงานร่วมได้มีหนังสือแจ้งให้ ป.ป.ช.นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา โดยกล่าวหาว่า เมื่อครั้งคุณหญิงจารุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ร่วมกับพวก จัดให้มีการสัมมนาขึ้นที่จังหวัดน่านทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่เพื่อให้บุคคลที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนาไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน จึงสามารถเบิกค่าเดินทางค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จากหลักฐานทั้งหมดของคณะกรรมการไต่สวน
สามารถนำมาหักล้างกับคำให้การของจำเลยทั้งสองได้ โดยการจัดสัมมนาในหัวข้อ "สตง.ในความคิดวุฒิสภา" ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดสัมมนา และหัวข้อที่ใช้บรรยายไม่ใช่การสัมมนาส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน 294,440 บาท และถือเป็นการจัดสัมมนาเท็จ เพียงเพื่อหาคนไปร่วมงานกฐินพระราชทาน ซึ่งตรงกับวันสัมมนาเท่านั้น ซึ่งจำเลยทั้งสอง ถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 83 พิพากษาจำคุก 2 ปี แต่ศาลเห็นว่า จำเลยทั้งสอง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จึงอนุญาตให้ทนายทำเรื่องขอปล่อยชั่วคราวได้