นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง มีการพูดคุยกันในวงผู้ใหญ่ของพรรคอย่างหนาหู และในวงการเมืองข่าวลือมักมาก่อนข่าวจริงเสมอ ทั้งนี้ ตนพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งและนโยบายของพรรค เพราะถ้าไม่เคารพปฏิบัติเท่ากับขัดต่อข้อบังคับพรรค อย่างไรก็ตาม ไม่อาจแสดงความคิดเห็นได้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ สมควรถูกปลดออกจากพรรคหรือไม่
ทั้งนี้จากการประเมินการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นั้น ถือว่าสอบตก และควรพิจารณาตัวเอง เนื่องจากประชาชนส่ายหน้ากับพฤติกรรม รวมทั้งเบื่อหน่ายในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ 1. ผู้ว่าฯ พูดจาไม่รับผิดชอบ 2. ประชาชนขอพบ หรือส่งจดหมายไป ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับ 3. ไม่ตรงต่อเวลา ไปงานใดประชาชนต้องเป็นฝ่ายรอตลอด 4. รับฟัง นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ มากกว่าใครทั้งสิ้น จึงทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกพรรค และ 5. บริหารงานไม่โปร่งใสในบางโครงการ เช่น โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวี เป็นต้น
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เคยนัดพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องการทำงานที่วังสวนผักกาด ถึง 2 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่พอใจที่มีสื่อมวลชนรับทราบถึงการนัดหมาย จึงให้นางเบญทราย แจ้งเลื่อนนัดออกไป และขอย้ำว่า หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่มีเวลาแม้แต่จะพบปะกับหัวหน้าพรรค ก็สมควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว ทั้งนี้ ทราบว่า หลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการดำเนินการกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ด้วย แต่ส่วนรายละเอียดนั้นไม่ทราบ
ด้านนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการหารือกันและมีมติออกมาอย่างไม่เป็นทางการให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากสมาชิกพรรคว่า ส่วนตัวเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่เหมาะที่จะเล่นการเมืองอีกต่อไป เพราะการทำงานไม่ตอบสนองประชาชนและไม่รับผิดชอบต่อคะแนนเสียงที่ประชาชนให้มา และความเสียหายของพรรคเกิดขึ้นทุกวัน
"มีข่าวว่าผู้บริหารพรรคมีมติปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ออกจากสมาชิกพรรค ผมถามว่าจะเอาออกได้อย่างไร เอาเขาออกอย่างไร ในเมื่อติดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมพรรคไม่ได้ แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทำให้พรรคเสียหายหลายครั้ง เขาควรจะพิจารณาตัวเอง วันนี้สังคมพูดกันมากว่ารับไม่ได้ในตัวผู้ว่าฯกทม. ไม่ได้ยินบ้างหรือ ชาวบ้านเขาด่ากันทุกวัน"
ทั้งนี้จากการประเมินการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นั้น ถือว่าสอบตก และควรพิจารณาตัวเอง เนื่องจากประชาชนส่ายหน้ากับพฤติกรรม รวมทั้งเบื่อหน่ายในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ 1. ผู้ว่าฯ พูดจาไม่รับผิดชอบ 2. ประชาชนขอพบ หรือส่งจดหมายไป ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับ 3. ไม่ตรงต่อเวลา ไปงานใดประชาชนต้องเป็นฝ่ายรอตลอด 4. รับฟัง นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ มากกว่าใครทั้งสิ้น จึงทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกพรรค และ 5. บริหารงานไม่โปร่งใสในบางโครงการ เช่น โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวี เป็นต้น
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เคยนัดพบ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องการทำงานที่วังสวนผักกาด ถึง 2 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธทั้ง 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่พอใจที่มีสื่อมวลชนรับทราบถึงการนัดหมาย จึงให้นางเบญทราย แจ้งเลื่อนนัดออกไป และขอย้ำว่า หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่มีเวลาแม้แต่จะพบปะกับหัวหน้าพรรค ก็สมควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว ทั้งนี้ ทราบว่า หลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการดำเนินการกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ด้วย แต่ส่วนรายละเอียดนั้นไม่ทราบ
ด้านนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคณะผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการหารือกันและมีมติออกมาอย่างไม่เป็นทางการให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากสมาชิกพรรคว่า ส่วนตัวเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่เหมาะที่จะเล่นการเมืองอีกต่อไป เพราะการทำงานไม่ตอบสนองประชาชนและไม่รับผิดชอบต่อคะแนนเสียงที่ประชาชนให้มา และความเสียหายของพรรคเกิดขึ้นทุกวัน
"มีข่าวว่าผู้บริหารพรรคมีมติปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ออกจากสมาชิกพรรค ผมถามว่าจะเอาออกได้อย่างไร เอาเขาออกอย่างไร ในเมื่อติดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประชุมพรรคไม่ได้ แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทำให้พรรคเสียหายหลายครั้ง เขาควรจะพิจารณาตัวเอง วันนี้สังคมพูดกันมากว่ารับไม่ได้ในตัวผู้ว่าฯกทม. ไม่ได้ยินบ้างหรือ ชาวบ้านเขาด่ากันทุกวัน"