นายโกเมนทร์ ทิวทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ สรุปรายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 จำนวนทั้งสิ้น 2,377 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 184.57 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย อัตราตายต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 0.16 อัตราผู้ป่วยตายเท่ากับร้อยละ 0.08 กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 10 - 14 ปี อัตราป่วยต่อประชากรแสนคนเท่ากับ 814.56 ราย อาชีพที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือนักเรียน จำนวนผู้ป่วยเท่ากับ 1,526 ราย รองลงมาคือ อาชีพในปกครอง อาชีพเกษตร อาชีพรับจ้าง โดยพบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนสิงหาคม จำนวนผู้ป่วย เท่ากับ 691 ราย โดยมีรายงานผู้ป่วยเดือนมกราคม 9 ราย กุมภาพันธ์ 4 ราย มีนาคม 17 ราย เมษายน 40 ราย พฤษภาคม 138 ราย มิถุนายน 234 ราย กรกฏาคม 374 ราย สิงหาคม 691 ราย กันยายน 576 ราย ตุลาคม 267 ราย พฤศจิกายน 27 ราย
สำหรับการป้องกันโรคไข้เลือดออก หากสามารถตัดวงจรของยุงลายได้ ก็จะลดจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้ อาการของผู้ป่วยไข้เลือดออก จะมีไข้สูงอย่างเฉียบพลันติดต่อกันตั้งแต่ 2-7 วันขึ้นไป หน้าแดง อ่อนเพลีย มีเลือดออกตามผิวหนังหรือเลือดกำเดาไหล จะไม่มีอาการไอหรือมีน้ำมูกหากไม่ได้เป็นโรคไข้หวัดไปพร้อมกัน ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาโรคไข้เลือดออก ประชาชน
ทั้งนี้ สามารถป้องกันโรคไข้เลือกออกได้ด้วยการใช้มาตรการ 5 ป. 1 ข. มาใช้ปราบยุงลาย คือ ป.ที่ 1 ปิด ฝาโอ่งหรือภาชนะขังน้ำให้มิดชิด ป.ที่ 2 เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน เช่นน้ำในแจกัน โอ่งน้ำใช้ จานรองขาตู้กับข้าว ป.ที่ 3 ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะด้วยปลาหางนกยูงที่กินลูกน้ำยุง ป.ที่ 4 ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน และ ป.ที่ 5 ขอให้เจ้าของบ้านเรือนลงมือปฏิบัติเองจนเป็นนิสัยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ และมาตรการ 1 ข. คือการขัด ล้างภาชนะก่อนเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกสัปดาห์ เพื่อกำจัดไข่ยุงที่เกาะอยู่ภายในภาชนะ
สำหรับการป้องกันโรคไข้เลือดออก หากสามารถตัดวงจรของยุงลายได้ ก็จะลดจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้ อาการของผู้ป่วยไข้เลือดออก จะมีไข้สูงอย่างเฉียบพลันติดต่อกันตั้งแต่ 2-7 วันขึ้นไป หน้าแดง อ่อนเพลีย มีเลือดออกตามผิวหนังหรือเลือดกำเดาไหล จะไม่มีอาการไอหรือมีน้ำมูกหากไม่ได้เป็นโรคไข้หวัดไปพร้อมกัน ต้องรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาโรคไข้เลือดออก ประชาชน
ทั้งนี้ สามารถป้องกันโรคไข้เลือกออกได้ด้วยการใช้มาตรการ 5 ป. 1 ข. มาใช้ปราบยุงลาย คือ ป.ที่ 1 ปิด ฝาโอ่งหรือภาชนะขังน้ำให้มิดชิด ป.ที่ 2 เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน เช่นน้ำในแจกัน โอ่งน้ำใช้ จานรองขาตู้กับข้าว ป.ที่ 3 ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะด้วยปลาหางนกยูงที่กินลูกน้ำยุง ป.ที่ 4 ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน และ ป.ที่ 5 ขอให้เจ้าของบ้านเรือนลงมือปฏิบัติเองจนเป็นนิสัยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ และมาตรการ 1 ข. คือการขัด ล้างภาชนะก่อนเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกสัปดาห์ เพื่อกำจัดไข่ยุงที่เกาะอยู่ภายในภาชนะ
