นางสาวศิรินาท ใจมั่น อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายชิโระ ซะโดะชิมะ เอกอัคราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย นโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพาณิชย์ และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2559 ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าโดยรวมคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ ส่งผลให้การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีทิศทางที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเยือนญี่ปุ่นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25 - 28 พฤศจิกายนนี้ โดยการเดินทางครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรองนายกรัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่น และจะมีการติดตามความคืบหน้าข้อตกลงร่วมกันของ 2 ประเทศ ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการเพิ่มปริมาณนำเข้าสินค้าจากไทย 4 ชนิด ได้แก่ มะม่วง มะนาว ส้ม และหมูปรุงสุกจากเดิมที่มีการส่งออกปีละ 1,200 ตัน ให้เพิ่มเป็น 12,000 ตัน ขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะขอให้ไทยเพิ่มการนำเข้าโควต้าเหล็กเพื่อนำไปผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 350,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะต้องกลับไปหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมอีกครั้ง อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ในโอกาสนี้ นายสมคิด จะขอเข้าพบกับรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ช่วง 8 เดือน มีมูลค่าการค้ารวม 34,857.18 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2557 ร้อยละ 8.52
นอกจากนี้ การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเริ่มดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเยือนญี่ปุ่นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25 - 28 พฤศจิกายนนี้ โดยการเดินทางครั้งนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรองนายกรัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่น และจะมีการติดตามความคืบหน้าข้อตกลงร่วมกันของ 2 ประเทศ ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการเพิ่มปริมาณนำเข้าสินค้าจากไทย 4 ชนิด ได้แก่ มะม่วง มะนาว ส้ม และหมูปรุงสุกจากเดิมที่มีการส่งออกปีละ 1,200 ตัน ให้เพิ่มเป็น 12,000 ตัน ขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะขอให้ไทยเพิ่มการนำเข้าโควต้าเหล็กเพื่อนำไปผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 350,000 ตัน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะต้องกลับไปหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมอีกครั้ง อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ในโอกาสนี้ นายสมคิด จะขอเข้าพบกับรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ช่วง 8 เดือน มีมูลค่าการค้ารวม 34,857.18 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2557 ร้อยละ 8.52