xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกาจำคุก 2 ปี อดีตอธิบดีกรมเจ้าท่าและพวก“คดีทุจริตเรือขุด”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศาลอาญารัชดาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายจงอาชว์ โพธิสุนทร อดีตอธิบดีกรมเจ้าท่า เรือตรีสัญชัย กุลปรีชา อดีตรองอธิบดีกรมเจ้าท่าฝ่ายปฏิบัติการ เรือตรีประเวช รักแผน นักวิชาการขนส่ง 9 ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการเดินเรือ กรมเจ้าท่า นายอิทธิพล กาญจนกิจ นิติกร 8 สำนักงานเลขานุการกรมเจ้าท่า นายดนัย ศรีพิทักษ์ นายช่างขุดลอก ฝ่ายแผนงานบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล กรมเจ้าท่า เรือตรีวิเชฎฐ์ พงษ์ทองเจริญ เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 กรมเจ้าท่า และนายปัญญา ส่งเจริญ เจ้าพนักงานตรวจเรือ 7 ฝ่ายตรวจเรือ สำนักงานเจ้าท่าที่ 2 กรมเจ้าท่า รวม 7 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับรองเอกสารได้กระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 162 คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างเรือขุดหัวสว่านของบริษัท เอลลิคอตต์ แมชชิน คอร์ปอเรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2540

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 7 คน ต่อมาอัยการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ ให้จำคุกนายจงอาชว์ กับพวกรวม 5 คน คนละ 10 ปี ส่วนจำเลยร่วมอีก 2 คน คือพิพากษายืนยกฟ้อง

ขณะที่ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายจงอาชว์ ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาการจ่ายเงินงวดที่ 5 ให้กับบริษัทผู้ขายตามข้อเสนอของผู้ขาย โดยแบ่งจ่ายเงิน 3 งวดย่อย ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ขาย ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และแม้บริษัทผู้ขายจะส่งท่อทุ่น และเรือพี่เลี้ยงมาให้ ก็ไม่เป็นไปตามสัญญา และไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตามสัญญาด้วย ส่วนจำเลยที่ 2 ถึง 7 ซึ่งรู้อยู่แล้วว่า บริษัทผู้ขายไม่สามารถส่งเรือขุดได้ตามกำหนด

ทั้งนี้ ยังตรวจรับงานและเสนอให้นายจงอาชว์ เปลี่ยนแปลงสัญญางวดที่ 5 และเซ็นอนุมัติ ซึ่งถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้ขาย ด้วย มีความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แต่ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น และฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยบางส่วน มีเหตุให้ปรานีโทษให้เบาลง พิพากษาแก้จำคุกนายจงอาชว์ และจำเลยร่วมทั้งหมด รวม 7 คน คนละ 2 ปี ซึ่งภายหลังศาลฎีกาพิพากษา ญาติของจำเลยได้ร่ำไห้ภายในห้องพิจารณาคดี และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวจำเลยทั้ง 7 คน ลงไปควบคุมที่ห้องขังด้านล่างของศาลอาญาทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น