xs
xsm
sm
md
lg

ฎีกาสั่งกทม.จ่าย12.6ล้าน คดีโป๊ะล่มปี38

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลฎีกาสั่ง กทม. จ่ายเงินค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตาย 12 ราย เหตุโป๊ะท่าเรือพรานนกล่มปี 38 รวม 12.6 ล้าน ชี้ประมาท ปล่อยโป๊ะรับน้ำหนักเกิน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ก.พ) ที่ห้องพิจารณาคดี 806 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ในคดีที่นางไสว ภู่สุวรรณ์ หรือวุฒิสาหะ มารดาของน.ส.รัชนี ภู่สุวรรณ์ ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์โป๊ะเทียบเรือท่าพรานนกล่ม ขณะรอลงเรือด่วนเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2538 พร้อมพวกรวม 12 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท สุภัทรา จำกัด , บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด , กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมเจ้าท่า เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดเรื่องละเมิด โดยเหตุเกิดจากความประมาทและการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยทั้ง 4 โดยขอให้จำเลยทั้ง4 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ค่าขาดไร้อุปการะและค่าปลงศพให้แก่โจทก์

โดยศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ กทม. จำเลยที่ 3 ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และ 2 จำนวน1,165,500 บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 3 จำนวน 627,549 บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 4 และ 5 จำนวน1,920,000 บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 6 จำนวน 1,200,000 บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 7 จำนวน 1,214,000บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 8 จำนวน2,080,000 บาท , ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 9 จำนวน 860,000 บาท ชำระเงินแก่โจทก์ที่ 10 จำนวน 698,442 บาท , ชดใช้เงินให้กับจำเลยที่ 11 และ 12จำนวน 2,850,750 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,616,241 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้องเมื่อปี 2539

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องบริษัท สุภัทรา จำกัด จำเลยที่ 1 และบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด 2 เนื่องจากได้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับโจทก์บางส่วนแล้ว โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ 1 และ 2 ออกจากสารบบความ และให้ยกฟ้องกรมเจ้าท่า จำเลยที่ 4 เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเหลือเพียง กทม. ที่ต่อสู้คดีมาจนถึงชั้นศาลฎีกา

นายวัชระ สุคนธ์ ทนายความโจทก์ กล่าวว่า คดีนี้โจทก์บางรายได้ถอนตัวไป และศาลจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1 และ 2 เพราะได้จ่ายค่าเสียหายให้กับโจทก์มาแล้วตั้งแต่ช่วงแรก ส่วนคดีอาญาก็ระงับไปแล้วตามสัญญาประนอมความ คงเหลือเพียงคดีแพ่งที่ กทม. ที่ยังต่อสู้คดีอยู่ และศาลฎีกาก็มีคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานในคดีนี้แล้ว ส่วนกรมเจ้าท่าจำเลยที่ 4 ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเหตุเกิดที่ท่าเทียบเรือ ไม่ใช่เกิดระหว่างเล่นเรือ

สำหรับค่าเสียหาย ศาลได้พิพากษาให้คิดดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ร่วม โดยนับตั้งแต่วันกระทำละเมิดคือ 14 มิ.ย.2539 โดยคำนวนจากเงินต้นไปร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเวลาร่วม 20 ปี ซึ่งต่อไปนี้ ตนจะขอศาลออกคำบังคับและหมายบังคับคดี เพื่อเรียกให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาต่อไป โดยล่าสุดศาลออกคำบังคับส่งให้ กทม. แล้ว ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ได้โปรดเร่งรัดจ่ายเงินให้ฝ่ายผู้เสียหายด้วย เพราะเงินของ กทม. อาจต้องผ่านที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครก่อน

"คดีนี้ เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าแม้บริษัทเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินกิจการท่าเรือเดินเรือ แต่ส่วนราชการในฐานะผู้ให้สัมปทานก็ต้องเข้าไปตรวจตรา จะปล่อยปละละเลยอ้างว่าให้สัมปทานแก่เอกชนแล้วไม่ได้ หรือจะปัดความต้องรับผิดชอบไม่ได้"นายวัชระกล่าว

สำหรับเหตุการณ์โป๊ะล่มที่พรานนกดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าวันที่ 14 มิ.ย.2538 ขณะเรือด่วนเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำพรานนก โป๊ะได้เกิดล่ม ส่งผลให้ผู้โดยสารที่ยืนรออยู่ร่วม 100 ชีวิต ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวถึง 29 ศพ
กำลังโหลดความคิดเห็น