xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำทะยาน น้ัำมันขึ้น ดาวโจนส์พุ่งหลังเฟดจ่อขึ้นดบ.เดือนธ.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายแล้ว

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.3 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ระดับ 1,176.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปิดตลาดพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดปิดทำการซื้อขายแล้ว

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำร่วงลงสู่ระดับ 1,162 ดอลลาร์/ออนซ์ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.74 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ปิดที่ 45.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 49.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส พุ่งขึ้นขานรับรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค.เพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 480 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทแอปเปิล อิงค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,779.52 จุด พุ่งขึ้น 198.09 จุด หรือ +1.13% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 5,095.69 จุด เพิ่มขึ้น 65.54 จุด หรือ +1.30% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,090.35 จุด เพิ่มขึ้น 24.46 จุด หรือ +1.18%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค.

แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ส่วนในการประชุมเดือนธ.ค.นั้น จะเป็นเวลาที่เฟดจะทำการพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยเฟดจะประเมินความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ต่อการบรรลุเป้าหมายของการจ้างงานที่ระดับสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟดช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร KBW Nasdaq ทะยานขึ้น 3.5% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 5.4%

หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้น 31% ในไตรมาส 3 จากยอดขาย iPhone ในจีนซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.112 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 8.47 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1.42 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1.96 ดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นกว่า 2.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 4.3%

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี

นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสหรัฐ โดยมาสเตอร์การ์ด อิงค์ และสตาร์บั๊ค จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 3/2558, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
กำลังโหลดความคิดเห็น