น้ำมันขึ้น-ทองลง หุ้นสหรัฐฯ บวกจากตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (16 ต.ค.) หลังพบกิจกรรมขุดเจาะลดลง คลายความวิตกต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากข้อมูลความเชื่อมั่นบริโภคสหรัฐฯ ขณะที่ทองคำปรับลดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 88 เซ็นต์ ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 73 เซ็นต์ ปิดที่ 50.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่หนุนตลาดพลังงานวานนี้ (16 ต.ค.) ได้แก่ข้อมูลรายสัปดาห์ของเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทสำรวจและขุดเจาะเชื้อเพลิงรายใหญ่ของโลก ที่ระบุว่ามีแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ปฏิบัติการในสัปดาห์นี้ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 10 แห่ง ถือเป็นการลดลง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

ข้อมูลดังกล่าวกระชับมุมมองเกี่ยวกับกำลังผลิตที่ลดลงในสหรัฐฯ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.) กระทรวงพลังงานรายงานว่ากำลังผลิตของอเมริกา ลดลงอีก 76,000 บาร์เรล เหลือ 9.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (16 ต.ค.) ขยับขึ้นมาปิดบวกในช่วงท้ายของการซื้อขาย จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคและผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทยักษ์ใหญ่

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 74.22 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.215.97 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.25 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,033.11 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.59 จุด (0.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,886.69 จุด

หุ้นของเจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 29.10 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตทางการเงิน หลังจากรายงานมีกำไรเกินกว่าที่ตลาดคาดหมาย

นอกจากนี้แล้ววอลล์สตรีทยังได้แรงหนนจากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เบื้องต้นประจำเดือนตุลาคมพุ่งขึ้นสู่ระดับ 92.1 จากระดับ 87.2 ในเดือนกันยายน

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ (16 ต.ค.) ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,183.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์