xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำปิดลบ น้ำมันขึ้น หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ซึมซับข้อมูลศก.สหรัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์-COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,183.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 16.114 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับตัวลดลงหลังดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆในตระกร้าเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ระดับ 94.50

โดยปกติ ราคาทองคำและค่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอลลาร์จะส่งผลให้ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์มีราคาสูงขึ้นและขาดแรงดึงดูดสำหรับนักลงทุน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจากสัญญาณการปรับตัวลดลงของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 50.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะที่เปิดใช้งานลดลง 10 แท่น มาอยู่ที่ 595 แท่นในสัปดาห์นี้

ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดน้ำมัน เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่า บริษัทน้ำมันสหรัฐกำลังเดินหน้าปรับลดค่าใช้จ่ายลงเนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง 76,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.096 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังจากที่แกว่งไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ หลังนักลงทุนซึมซับการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 74.22 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 17,215.97 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 9.25 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 2,033.11 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 16.59 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 4,886.69 จุด

นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนยังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ส่วนวอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากข่าวดีของบริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริค (จีอี) ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีกำไรเกิดกว่าที่คาด ทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 3.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างทวิตเตอร์และกูเกิลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

การผลิตที่ร่วงลงดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้อุปสงค์ของสินค้าจากสหรัฐลดลง

ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นประจำเดือนต.ค. พุ่งขึ้นสู่ระดับ 92.1 จากระดับ 87.2 ในเดือนก.ย. ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะอยู่ที่ 89.5 ในเดือนต.ค.

ดัชนีความเชื่อมั่นที่ปรับตัวขึ้นบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่อ่อนแอ

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. จากระดับ 5.7 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2000

ทางกระทรวงยังได้เปิดเผยว่าจำนวนแรงงานที่ลาออกจากงานโดยสมัครใจทรงตัวที่ระดับ 2.7 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค.

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 3.39% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นประจำไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ถึงแม้ว่ายอดขายจะปรับตัวลดลง

หุ้นแมทเทล อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่เพิ่มขึ้น 6% ถึงแม้ว่าบริษัทจะเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นที่ปรับตัวลดลงในไตรมาสที่ 3 หลังประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยืนยันจะจ่ายเงินปันผลตามแผน

หุ้นควอนตา เซอร์วิสเซส ร่วงลง 29% หลังระบุว่าบริษัทอาจจะมีรายได้ในไตรมาสที่ 3 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น