ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ในวันที่ 9-11 ตุลาคมนี้ จะเกิดปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนอีกครั้งหนึ่ง คล้ายกับที่เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้จะเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น ทางทิศตะวันออก เป็นโอกาสดีที่จะเห็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะด้วยตาเปล่าในทิศทางเดียวกันถึง 4 ดวง ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์ ยกเว้นดาวเสาร์ ที่จะสังเกตได้ในช่วงหัวค่ำวันที่ 9 ตุลาคม ดาวศุกร์จะปรากฏเคียงดวงจันทร์เสี้ยว ถัดลงมาคือดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวพุธ ตามลำดับ
ในวันที่ 10 ตุลาคม ดาวอังคาร กับดาวพฤหัสบดี จะปรากฏเคียงดวงจันทร์เสี้ยว และส่งท้ายวันที่ 11 ตุลาคม ดาวพุธจะเคียงดวงจันทร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์จะสังเกตได้ง่าย เนื่องจากเป็นสองวัตถุที่มีความสว่างที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน ไม่นับรวมดวงจันทร์ แต่ดาวพุธอาจสังเกตได้ยาก เนื่องจากปรากฏสูงจากขอบฟ้าเพียงเล็กน้อย และยังมีแสงสนธยารบกวน นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หากวันดังกล่าวท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆฝน ก็จะมีโอกาสมองเห็นได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
ในวันที่ 10 ตุลาคม ดาวอังคาร กับดาวพฤหัสบดี จะปรากฏเคียงดวงจันทร์เสี้ยว และส่งท้ายวันที่ 11 ตุลาคม ดาวพุธจะเคียงดวงจันทร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์จะสังเกตได้ง่าย เนื่องจากเป็นสองวัตถุที่มีความสว่างที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน ไม่นับรวมดวงจันทร์ แต่ดาวพุธอาจสังเกตได้ยาก เนื่องจากปรากฏสูงจากขอบฟ้าเพียงเล็กน้อย และยังมีแสงสนธยารบกวน นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย หากวันดังกล่าวท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีเมฆฝน ก็จะมีโอกาสมองเห็นได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย