นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายน 2558 ว่า เท่ากับ 106.28 ลดลงร้อยละ 1.07 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 โดยยังคงเป็นผลจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่องเดือนกันยายนเฉลี่ยเพียง 45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และค่าโดยสารสาธารณะจากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี และอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งค่าไฟฟ้าปรับลดลงตามอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) และการปรับตัวลดลงของราคาอาหารสด ส่งผลให้เฉลี่ย 9 เดือน (ม.ค.- ก.ย.58) อัตราเงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.90 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทำให้กระทรวงพาณิชย์ปรับคาดการณ์เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปีนี้ใหม่เหลือติดลบร้อยละ 0.2-1 จากเดิมคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.6 -1.3 ภายใต้สมมติฐานใหม่จากเศรษฐกิจไทยปี 2558 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 น้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ย 48-58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 33-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีนี้จะกลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 6 ปี นับจากปี 2552 ที่ติดลบร้อยละ 0.9 จากนโยบายประชานิยม
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำ จากจำนวนรายการสินค้าที่ปรับขึ้นราคามีถึง 184 รายการ ซึ่งยังมากกว่าสินค้าที่ลดราคาลงที่มีจำนวน 160 รายการ ขณะที่รายการสินค้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงราคามี 106 รายการ ประกอบกับตัวเลขภาษีมูลค่าเพิ่มที่กระทรวงการคลังจัดเก็บยังเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าประชาชนยังมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทำให้กระทรวงพาณิชย์ปรับคาดการณ์เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อปีนี้ใหม่เหลือติดลบร้อยละ 0.2-1 จากเดิมคาดว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.6 -1.3 ภายใต้สมมติฐานใหม่จากเศรษฐกิจไทยปี 2558 ขยายตัวร้อยละ 2.5-3.5 น้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ย 48-58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 33-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีนี้จะกลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 6 ปี นับจากปี 2552 ที่ติดลบร้อยละ 0.9 จากนโยบายประชานิยม
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำ จากจำนวนรายการสินค้าที่ปรับขึ้นราคามีถึง 184 รายการ ซึ่งยังมากกว่าสินค้าที่ลดราคาลงที่มีจำนวน 160 รายการ ขณะที่รายการสินค้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงราคามี 106 รายการ ประกอบกับตัวเลขภาษีมูลค่าเพิ่มที่กระทรวงการคลังจัดเก็บยังเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าประชาชนยังมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง