เอเอฟพี - ราคาน้ำมันพุ่งทะยานในวันพุธ (16 ก.ย.) หลังรายงานอุปทานปิโตรเลียมสหรัฐฯ พบสต๊อกและกำลังผลิตลดลง ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำก็ปิดบวกแรง ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมนโยบายของธนาคารกลางอเมริกา (เฟด)
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานคลังปิโตรเลียมสำรองรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯที่เผยแพร่ในวันพุธ(16ก.ย.) พบสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล โดยเฉพาะที่ศูนย์ส่งมอบสำคัญ ณ เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา ที่ลดลงถึง 1.9 ล้านบาร์เรล
ในขณะเดียวกัน รายงานดังกล่าวยังเผยให้เห็นว่ากำลังผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ลดลง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ถึงแม้สัปดาห์ที่่ผ่านมาจะลดลงแค่ 18,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ก็ตาม
เหล่านักสังเกตการณ์ตลาดน้ำมันกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดต่อระดับการผลิตของสหรัฐฯ เนื่องจากมันเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของภาวะอุปทานล้นตลาด ซึ่งฉุดให้ราคาทรุดลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานนี้ ส่งให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามๆกันในวันพุธ (16 ก.ย.) ดันวอลล์สตรีทปิดบวกอย่างแรง ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการตัดสินใจของที่ประชุมเฟดเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายสัปดาห์
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 140.10 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.739.95 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.22 จุด (0.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,995.31 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.72 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,889.24 จุด
เฟดมีกำหนดแถลงผลการตัดสินใจในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (17 ก.ย.) ว่าจะปรับขึ้นหรือคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป เป็นไปได้ที่มันจะช่วยปลดเปลื้องตลาดจากความไม่แน่นอนยาวนานหลายเดือน เนื่องจากที่ผ่านมาเหล่านักลงทุนพยายามคาดเดาต่างๆ นานาถึงกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ย
ในขณะเดียวกัน ด้วยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าตัวเลขเงินเฟ้ออาจยังไม่ตรงตามระดับเป้าหมายของเฟดสำหรับปรับขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยนี้จึงคลายความกังวลแก่นักลงทุนและผลักให้ทองคำปิดบวกวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือนในวันพุธ (16 ก.ย.) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 16.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,119.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
