สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยทองคำปิดตลาดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้นักลงทุนลดความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 11.6 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,115.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลารที่แข็งค่าและข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อวานนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,284.70 จุด พุ่งขึ้น 235.57 จุด หรือ +1.47% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,620.16 จุด เพิ่มขึ้น 102.84 จุด หรือ +2.28% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,920.03 จุด เพิ่มขึ้น 35.94 จุด หรือ +1.91%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับตลาดหุ้นทั่วโลกที่พากันปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ปิดพุ่งขึ้น 2.7% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆที่มีส่วนช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยนั้นสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนนเนียง 277 ต่อ 151 เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐในการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จนถึงวันที่ 11 ธ.ค.
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน โดยหุ้นเดลฟี ออโตโมทีฟ และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 48.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง หลังจาก EIA สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 457.92 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 1.068 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 300,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 40,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.096 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 11.6 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,115.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยเมื่อคืนนี้ทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลารที่แข็งค่าและข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 2.7% เมื่อวานนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,284.70 จุด พุ่งขึ้น 235.57 จุด หรือ +1.47% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,620.16 จุด เพิ่มขึ้น 102.84 จุด หรือ +2.28% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,920.03 จุด เพิ่มขึ้น 35.94 จุด หรือ +1.91%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับตลาดหุ้นทั่วโลกที่พากันปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ปิดพุ่งขึ้น 2.7% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆที่มีส่วนช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยนั้นสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนนเนียง 277 ต่อ 151 เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐในการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จนถึงวันที่ 11 ธ.ค.
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน โดยหุ้นเดลฟี ออโตโมทีฟ และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 48.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง หลังจาก EIA สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 457.92 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 1.068 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 300,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 40,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.096 ล้านบาร์เรลต่อวัน
