xs
xsm
sm
md
lg

ดาวโจนส์รูด วิตกศก.โลก-ปมฉาวโฟล์ค ทองปิดร่วง น้ำมันลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป อันเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าบริษัทโฟล์คสวาเกน เอจี เผชิญกับข่าวอื้อฉาว ในกรณีที่ทางบริษัทได้แจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ให้ดูดีเกินจริง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,330.47 จุด ร่วงลง 179.72 จุด หรือ -1.09% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 24.23 จุด หรือ 1.23% ปิดที่ 1,942.74 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 72.24 จุด หรือ 1.50% ปิดที่ 4,756.72 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นับตั้งแต่ที่เฟดตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงอ่อนแอและตลาดการเงินยังไร้เสถียรภาพ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีที่ดิ่งลงไปถึง 3.80% หลังจากหุ้นโฟล์คสวาเกน เอจี บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ดิ่งลงอย่างหนัก จากกรณีข่าวอื้อฉาวที่ว่าทางบริษัทได้ทำการแจ้งข้อมูลเท็จในการทดสอบการปล่อยมลพิษจากรถยนต์รุ่นดีเซลให้ดูดีเกินจริง

ทั้งนี้ ทางการสหรัฐระบุว่าโฟล์คสวาเกนได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ในรถยนต์ดีเซลเกือบ 5 แสนคันเพื่อทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยไอเสียน้อยกว่าความเป็นจริง โดยหากพบว่าบริษัทมีความผิดจริง ก็จะถูกทางการสหรัฐปรับเป็นเงินจำนวน 37,500 ดอลลาร์ต่อคัน ซึ่งจะรวมกันมากกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 650,000 ล้านบาท

ข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกนได้ฉุดหุ้นกลุ่มรถยนต์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย โดยหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิล ร่วงลง 5.7% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ดิ่งลง 1.9% และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ร่วงลง 1.95%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ระลอกใหม่ว่า ธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ - COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 8.00 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,124.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนายล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ยังคงย้ำว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าความผันผวนในตลาดการเงินจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจในจีนและสหรัฐ ยังได้สร้างความกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันในประเทศดังกล่าว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด โดยแม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ย.ของสหรัฐ ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.9 ล้านบาร์เรล แต่ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อพิจารณาจากสถิติ

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาย้ำกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ผลการสำรวจวาณิชธนกิจจำนวน 13 แห่งโดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล พบว่า วาณิชธนกิจเหล่านี้ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลงต่ำกว่าระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจนถึงปีหน้า ท่ามกลางภาวะปริมาณน้ำมันล้นตลาด

ผลสำรวจระบุว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบเบรนท์จะลดลง 9 ดอลลาร์ สู่ระดับ 58.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ วาณิชธนกิจยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ WTI ลง 9 ดอลลาร์ สู่ระดับ 54.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น