ยูเครนจะร้องขอความสนับสนุนด้านอาวุธสังหารป้องกันตนเองจากพันธมิตรตะวันตกอีกรอบ หากว่าข้อตกลงสันติภาพมินสก์พังครืน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเคียฟประจำนาโต้เปิดเผยในวันอังคาร(15ก.ย.) พร้อมเรียกร้องให้ช่วยดึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนทางภาคตะวันออกติดกับรัสเซีย กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมอีกครั้ง
การจัดมอบอาวุธสังหารแก่กองทัพยูเครนคือหนึ่งในประเด็นอ่อนไหวที่สุดสำหรับเหล่ารัฐบาลชาติตะวันตก ท่ามกลางคำเตือนของรัสเซียว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นตัวขยายความขัดแย้งอย่างรุนแรงและเสี่ยงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของพวกเขา
อย่างไรก็ตามนายเยฮอร์ บอซฮอค รักษาการผู้แทนทูตของยูเครนประจำนาโต้ ยอมรับว่าบางทีอาจไม่มีทางเลือกอื่นๆ "ถ้าอาวุธหนักถูกถอนออกไปจากชายแดนทางตะวันออกของเราภายใต้ข้อตกลงมินสก์ อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แต่หากสถานการณ์ลุกลาม เมื่อนั้นเราก็จะหยิบยกประเด็นร้องขออาวุธป้องกันตนเองที่ทันสมัยพูดคุยกับพันธมิตรตะวันตกของเราอีกรอบ"
บอซฮอค บอกกับรอยเตอร์ว่า "เราจะไม่เอาไปโจมตีใคร เราแค่อยากปกป้องตนเองเท่านั้น" เขากล่าว พร้อมระบุอาวุธต่อต้านปืนใหญ่ ต่อต้านปืนครกและต่อต้านรถถัง คืออาวุธที่มีความจำเป็นที่สุดและบอกว่าได้ยื่นคำร้องขอดังกล่าวไปสักพักหนึ่งแล้ว
การจัดมอบอาวุธสังหารแก่กองทัพยูเครนคือหนึ่งในประเด็นอ่อนไหวที่สุดสำหรับเหล่ารัฐบาลชาติตะวันตก ท่ามกลางคำเตือนของรัสเซียว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นตัวขยายความขัดแย้งอย่างรุนแรงและเสี่ยงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของพวกเขา
อย่างไรก็ตามนายเยฮอร์ บอซฮอค รักษาการผู้แทนทูตของยูเครนประจำนาโต้ ยอมรับว่าบางทีอาจไม่มีทางเลือกอื่นๆ "ถ้าอาวุธหนักถูกถอนออกไปจากชายแดนทางตะวันออกของเราภายใต้ข้อตกลงมินสก์ อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แต่หากสถานการณ์ลุกลาม เมื่อนั้นเราก็จะหยิบยกประเด็นร้องขออาวุธป้องกันตนเองที่ทันสมัยพูดคุยกับพันธมิตรตะวันตกของเราอีกรอบ"
บอซฮอค บอกกับรอยเตอร์ว่า "เราจะไม่เอาไปโจมตีใคร เราแค่อยากปกป้องตนเองเท่านั้น" เขากล่าว พร้อมระบุอาวุธต่อต้านปืนใหญ่ ต่อต้านปืนครกและต่อต้านรถถัง คืออาวุธที่มีความจำเป็นที่สุดและบอกว่าได้ยื่นคำร้องขอดังกล่าวไปสักพักหนึ่งแล้ว