ความคืบหน้าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหา คือ นายเหอยิง กับนางเจียง ซูเหลียง ที่สับเปลี่ยนเพชรปลอม 6 กะรัต มูลค่า 10 ล้านบาท ในงานบางกอกเจมส์แฟร์ แอนด์ จิวเวอร์รี่ ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี มาสอบปากคำที่สภ.ปากเกร็ด ด.ต.อรรถนันท์ ปัญจรัตน์ ผู้บังคับหมู่สืบสวน สภ.ปากเกร็ด ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งยังบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทั้ง 2 คน ไม่ได้รู้จักหรือมาด้วยกัน แต่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน และคำบอกเล่าของพนักงานยืนยันว่า มีเพียงนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนนี้เท่านั้น ที่เข้ามาทำทีขอดูเพชร และอาศัยช่วงเวลาที่พนักงานเผลอสลับเพชรจริงกับเพชรปลอม ก่อนที่จะกลับออกไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้นางเจียง ยอมรับว่าด้วยความตกใจจึงกลืนเพชรลงไป เจ้าหน้าที่นำตัวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลและพบวัตถุรูปร่างคล้ายเพชรภายในช่องท้องของนางเจียง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้ผู้ต้องหารับประทานยาถ่าย และเฝ้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่า ผู้ต้องหาจะทำลายหลักฐาน แต่นางเจียง ไม่สามารถถ่ายได้ และเริ่มมีไข้ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแพทย์ได้ให้เกลือแร่ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย และไม่ยอมรับประทานอาหาร เจ้าหน้าที่จึงต้องรอจนกว่านางเจียงจะมีอาการดีขึ้น และถ่ายได้ เพื่อนำของกลางมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายเหอ ยิง จากหลักฐานที่มัดตัวทำให้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อรอการสืบสวนต่อไป
ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้นางเจียง ยอมรับว่าด้วยความตกใจจึงกลืนเพชรลงไป เจ้าหน้าที่นำตัวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลและพบวัตถุรูปร่างคล้ายเพชรภายในช่องท้องของนางเจียง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้ผู้ต้องหารับประทานยาถ่าย และเฝ้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่า ผู้ต้องหาจะทำลายหลักฐาน แต่นางเจียง ไม่สามารถถ่ายได้ และเริ่มมีไข้ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแพทย์ได้ให้เกลือแร่ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย และไม่ยอมรับประทานอาหาร เจ้าหน้าที่จึงต้องรอจนกว่านางเจียงจะมีอาการดีขึ้น และถ่ายได้ เพื่อนำของกลางมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่นายเหอ ยิง จากหลักฐานที่มัดตัวทำให้ถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรีเพื่อรอการสืบสวนต่อไป