ความพยายามของรีพับลิกันในการคว่ำข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ถูกขัดขวางโดยวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(10ก.ย.) หลังเหล่าสมาชิกสภาบนลงมติเห็นชอบข้อตกลงประวัติศาสตร์ดังกล่าว มอบชัยชนะทางนโยบายต่างประเทศครั้งสำคัญแก่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งยกให้มันเป็นชัยชนะของความมั่นคงระหว่างประเทศ
ด้วยส.ว.เดโมแครตและอิสระ 42 คน ลงมติคัดค้าน นั่นหมายความว่าฝ่ายต่อต้านข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 60 เสียงในสภาบน 100 ที่นั่ง สำหรับเดินหน้ามติไม่เห็นชอบข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้ความพยายามที่จะล้มข้อตกลงประวัติศาสตร์นี้ต้องตกเป็นฝ่ายปราชัย
พวกเดโมแครตบอกว่าผลโหวตดังกล่าวเป็นการขีดฆ่าความพยายามของสภาคองเกรสที่รีพับลิกันกุมเสียงข้างมาก ที่ต้องการล้มข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่าง 6 ชาติมหาอำนาจกับอิหร่าน ทั้งนี้หากมติคว่ำข้อตกลงผ่านความเห็นชอบ โอบามาจะถูกห้ามปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งของข้อตกลงนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตามเหล่าสมาชิกรีพับลิกัน ซึ่งต่อต้านข้อตกลงดังกล่าว ประกาศเดินหน้าสู้ต่อ โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยืนยันว่าศึกอภิปรายนี้ยังอยู่ห่างไกลจากจุดจบและบอกว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
ด้วยส.ว.เดโมแครตและอิสระ 42 คน ลงมติคัดค้าน นั่นหมายความว่าฝ่ายต่อต้านข้อตกลงนิวเคลียร์ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ถึง 60 เสียงในสภาบน 100 ที่นั่ง สำหรับเดินหน้ามติไม่เห็นชอบข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้ความพยายามที่จะล้มข้อตกลงประวัติศาสตร์นี้ต้องตกเป็นฝ่ายปราชัย
พวกเดโมแครตบอกว่าผลโหวตดังกล่าวเป็นการขีดฆ่าความพยายามของสภาคองเกรสที่รีพับลิกันกุมเสียงข้างมาก ที่ต้องการล้มข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่าง 6 ชาติมหาอำนาจกับอิหร่าน ทั้งนี้หากมติคว่ำข้อตกลงผ่านความเห็นชอบ โอบามาจะถูกห้ามปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งของข้อตกลงนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตามเหล่าสมาชิกรีพับลิกัน ซึ่งต่อต้านข้อตกลงดังกล่าว ประกาศเดินหน้าสู้ต่อ โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยืนยันว่าศึกอภิปรายนี้ยังอยู่ห่างไกลจากจุดจบและบอกว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น